สนามข่าว 7 สี - ตำรวจ สอท. ยังคงไล่ล่าผู้ต้องหาบัญชีม้า คดีหลอกนักเรียนหญิง ม.6 อย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้จะนำตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับได้มาเค้นสอบเพิ่ม ขณะที่เตรียมขยายผลดำเนินคดีเพิ่มอีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจ สอท. จับเพิ่มคนกดเงินและบัญชีม้า รวม 3 คน
ความคืบหน้าการติดตามจับกุมบัญชีม้าและแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่หลอกขายโทรศัพท์ให้นักเรียนหญิง ม.6 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จนเป็นเหตุให้น้องเสียชีวิต พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 7HD ว่าล่าสุด ตำรวจ สอท. จับกุมบัญชีม้าที่ออกหมายจับไป 3 ราย จับได้แล้ว 2 ราย คือ นางสาวรัตนพร อายุ 18 ปี และนายธีรวัฒน์ อายุ 19 ปี ส่วนนางสาวศิริพร อยู่ระหว่างการหลบหนี ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะจับกุมได้เร็ว ๆ นี้
ตำรวจ สอท. ยังจับกุม นางสาวณัฎฐนิชา อายุ 39 ปี ที่ทำหน้าที่กดเงินในบัญชีม้าจากตู้เอทีเอ็ม ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เวลา 08.56 น.ของวันที่ 16 ตุลาคม โดยนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบปากคำที่ บก.สอท.5
พร้อมกันนี้ยังขอออกหมายจับ เจ้าของรถยนต์ที่นางสาวณัฏฐนิชา ยืมไปกดเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี รวมถึงจะขอออกหมายค้นบ้านพักเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อหาความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ด้วย
พลตำรวจโท วรวัฒน์ ยังบอกอีกว่าในวันนี้ตำรวจ สอท. จะออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งเป็นตัวละครใหม่ หลังมีข้อมูลว่าผู้ต้องหาคนนี้ทำหน้าที่ชักชวนให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ถูกออกหมายจับ และถูกจับกุมแล้ว ให้เปิดบัญชีม้าให้ ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่าผู้ต้องหาคนนี้ ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ส่วน นางสาวดอกแก้ว บัญชีม้าแถวแรกที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ตำรวจ สอท. สอบปากคำเพิ่มนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนพาตัวไปฝากขัง ซึ่งนางสาวดอกแก้ว และมารดาที่มาเฝ้าดูแลลูกสาว ปฏิเสธตอบคำถามของสื่อมวลชน โดยมีอาการเคร่งเครียดตลอดเวลา
ด้านพลตำรวจตรี ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการ สอท. 5 ให้ข้อมูลว่า ในการสอบสวนนางสาวดอกแก้ว ได้ให้การที่เป็นประโยชน์มากขึ้น เช่น ยอมรับเรื่องวิธีเปิดบัญชีม้า และรับว่าได้เงินจริง รวมถึงเรื่องการเปิดและใช้งานบัญชีม้า ในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้จากการขยายผล พบข้อมูลว่าผู้ร่วมขบวนการ มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ หรือเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงจะขยายผลการจับกุมไปให้ถึงตัวการใหญ่เลยทีเดียว
ผู้เสียหาย 2 คน เข้าให้ปากคำ ถูกหลอกขาย iPhone
ขณะที่มีเหยื่อถูกแก๊งคอลเซนเตอร์เครือข่ายเดียวกับนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ที่เสียชีวิต หลอกเช่นกัน 2 ราย รายแรกเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ให้ปากคำที่ สน.ห้วยขวาง เพิ่มเติม หลังได้เข้าแจ้งความถูกมิจฉาชีพหลอกขายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง ราคาประมาณ 20,000 บาท ให้วางเงินดาวน์ 5,990 บาท ที่เหลือให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1,000 บาท แต่จับได้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจฉ้อโกง เหมือนกับคดีของนักเรียนหญิง ม.6 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้เสียหายบอกก่อนตกลงโอนเงิน ได้ตรวจสอบหน้าเพจ พบมีผู้ติดตามจำนวนมาก ร้านน่าเชื่อว่ามีอยู่จริง ทำสัญญาซื้อขายชัดเจน รวมถึงตรวจสอบชื่อบัญชี "นางสาวดอกแก้ว" ที่รับโอนเงิน ไม่มีประวัติเตือนให้ระวัง จึงหลงเชื่อ ส่วนที่พบพิรุธ เพราะอีกฝ่ายอ้างทำรายการไม่ถูกต้อง ขอให้โอนเงินใหม่ พอถามเรื่องยกเลิก ก็บอกให้โอนเงินไปอีก จึงรู้ว่าเป็นมิจฉาชีพ
ผู้เสียหายอีกรายเข้าให้ปากคำกับเพิ่มเติมที่ สน.บุคคโล หลังเคยแจ้งความซื้อผ่อนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง โอนเงินเข้าบัญชี "นางสาวดอกแก้ว" ก็พบพิรุธคล้าย ๆ กันที่ให้โอนเงินซ้ำ ซึ่งทำตามไป 1 ครั้ง ก่อนจับได้ว่าถูกหลอก เสียเงินไปเกือบ 14,000 บาท
ด้านพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ตำรวจสืบสวนนครบาล และตำรวจ สน.บุคคโล, สน.หัวหมาก และ สน.ห้วยขวาง เร่งสืบสวนคดีนี้ ให้นัดผู้เสียหายเข้าให้ปากคำ เพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า จะออกหมายจับได้ครบทั้งหมด จากนั้นจะให้พนักงานสอบสวนไปขออายัดตัวผู้ต้องหา นำตัวมาดำเนินคดีต่อจากคดีของตำรวจไซเบอร์ รวมถึงขยายผลไปยังบัญชีม้ารายอื่น ๆ ต่อไป
