ฎีกาแก้ยกฟ้อง "เบนซ์ เรซซิ่ง" สมคบค้ายาเสพติด ส่วนข้อหาฟอกเงิน ติดคุกครบแล้ว เตรียมปล่อยตัวเย็นนี้

ฎีกาแก้ยกฟ้อง "เบนซ์ เรซซิ่ง" สมคบค้ายาเสพติด ส่วนข้อหาฟอกเงิน ติดคุกครบแล้ว เตรียมปล่อยตัวเย็นนี้

View icon 4.5K
วันที่ 24 ต.ค. 2566 | 11.24 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลฎีกา แก้ยกฟ้อง เบนซ์ เรซซิ่ง ข้อหาสมคบค้ายาฯ ชี้ พยานโจทก์มีข้อสงสัย แต่มีความผิดเฉพาะข้อหาร่วมฟอกเงิน เจ้าตัวติดคุกครบแล้ว เตรียมปล่อยตัววันนี้ ด้านแม่ดีใจ ลั่น เย็นนี้ไปรับตัวลูกที่เรือนจำ

วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 36 ปี อดีตสามีแพท ณปภา ตันตระกูล นักแสดงและพิธีกรสาวชื่อดัง นายสรรเสริญ หรือ เน็ต อายุ 41 ปี และ น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ , ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3, 4, 6, 10, 14 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 9, 60

ซึ่งคดีนี้ ในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา “นายอัครกิตติ์” จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธโดยตลอด ส่วนจำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพผิดฐานฟอกเงินเท่านั้น โดยศาลอาญาพิพากษา เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2561 ให้จำคุก “นายอัครกิตติ์” จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบกันค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปรามยาเสพติดฯ

ส่วนจำเลยที่ 2-3  มีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานร่วมกันฟอกเงิน ให้จำคุกคนละ 8 ปี  ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกฐานฟอกเงินคนละ 4 ปี และฐานสมคบกันทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี ปรับคนละ 400,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3  คนละ 24 ปี ปรับคนละ 4 แสนบาท

ต่อมา จำเลยทั้งสามยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษ นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือ หรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานฟอกเงินจำคุกรวม 36 ปี 8 เดือน ปรับ 3,333,333.33 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-3 เหลือจำคุก คนละ 22 ปี 6 เดือน ปรับคนละ 4 แสนบาท จำเลยที่ 1 ยื่นฎีกาคนเดียว

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำ นำตัว เบนซ์ เรซซิ่ง มาศาล ตั้งแต่ช่วง 08.20 น. จากนั้นนำตัวขึ้นไปฟังคำพิพากษา มีพ่อเแม่ และญาติ เดินทางมาร่วมรับฟังเต็มห้องพิจารณา โดยเบนซ์ซึ่งอยู่ในชุดผู้ต้องขังมีสีหน้าเคร่งเครียดอยากเห็นได้ชัด 

ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า แม้คดีนี้อัยการโจทก์จะมีรองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและเจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าพนักงาน ปปง.เบิกความทำนองเดียวกันว่า นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 มีส่วนร่วมรู้เห็นและเป็นผู้สนับสนุนการค้ายาเสพติดของกลาง แต่จำเลยคนอื่นในคดีนี้ไม่ได้เบิกความอ้างถึงว่า นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดตามที่อัยการโจทก์ฟ้องในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ฯ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น พิพากษายกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง มีความผิดเฉพาะข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 3 ปี 4 เดือน ซึ่งนายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ติดคุกมาแล้ว 4 ปีเศษ ดังนั้น จะได้รับการปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางในช่วงเย็นวันนี้

ด้านมารดาของเบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากจนพูดไม่ออก ที่ผ่านมาเสียใจที่ลูกชายติดคุก แต่ตอนนี้ลูกชายติดคุกครบแล้ว ดังนั้น ตอนเย็นนี้ครอบครัวและเพื่อนเตรียมตัวจะไปรับลูกชายที่เรือนจำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง