2 ผู้บริหารของบริษัทฯ "ดูทีวี มีเดีย" ที่ละเมิดลิขสิทธิ์รายการโทรทัศน์ของช่อง 7HD มูลค่าความเสียหายกว่า 2,809 ล้านบาท เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ พร้อมให้การปฎิเสธ
ผู้บริหาร บริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด 2 คน เป็นชายหนึ่งคนและหญิงอีกหนึ่งคน ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI หลังทั้งสองคนถูกออกหมายจับร่วมกับพวกอีก 7 คน ในฐานความผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์และฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่มผู้ต้องหาเป็นโปรแกรมเมอร์ ได้ดักสัญญาณโทรทัศน์ของช่อง 7HD และช่องโทรทัศน์อื่นๆ และนำไปจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ (Cloud) โดยรายการโทรทัศน์ของช่อง 7HD ที่ถูกละเมิดมี อาทิ รายการละคร รายการข่าว รายการวาไรตี้ รายการซีรีส์ รายการภาพยนตร์ต่างประเทศ และรายการพิเศษต่างๆ โดยเครื่องแม่ข่าย หรือ Server ตั้งที่อยู่ในประเทศอังกฤษ และนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ดูทีวีดอทคอม (www.dootv.com) และเว็บไซต์ไทยฟลิกซ์ดอทคอม (www.thaiflix.com) โดยไม่ได้รับอนุญาต มีการเรียกเก็บค่าสมาชิกจากลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ชมที่อยู่ในต่างประเทศผ่านบัญชี Paypal ในอัตรา 14 เหรียญสหรัฐ ต่อ 30 วัน
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่า บริษัทฯดังกล่าว ได้ตั้งสำนักงานขึ้นหลายแห่งทั้งในประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว โดยมีจำนวนรายการที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ฯ ทั้งหมด 592 รายการ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,809 ล้านบาท เหตุเกิดขึ้นในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2558 ถึงประมาณเดือนสิงหาคม 2561
โดยผู้บริหารทั้ง 2 คน ได้ให้การปฎิเสธในระหว่างการมอบตัว พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ รับไว้และได้อนุญาตให้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์คนละ 1 ล้านบาท
พนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ ระบุว่า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้ขอศาลฯ ออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน ทั้งหมดเป็นผู้บริหาร บริษัท ดูทีวี มีเดีย จากนั้นเดือนกันยายน พบว่า 1 ใน 9 คน ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ถูกเจ้าหน้าที่ ตม. จับกุมตัวตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งให้ ดีเอสไอ สอบสวน และไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี ก่อนศาลจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว และนำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ล่าสุดก็ได้มีการเข้ามามอบตัวอีก 2 คน หลังจากนี้ ทาง ดีเอสไอ จะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 คน มาเพื่อการดำเนินคดีต่อไป