ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สาวอายุ 25 ปี เข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเณรแอร์หลอกให้ทำพิธีถอนของเขมร ด้วยการให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งเธอก็หลงเชื่อ แต่พอทำไปแล้วกลับไม่ได้ผล จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
สาวรายหนึ่ง อายุ 25 ปี นำหลักฐานการแช็ตข้อความ มาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยในแช็ตระบุว่า ผู้เสียหายไปหาเณรแอร์ที่สำนักหลายครั้ง เพราะต้องการให้ถอนของ คุณไสย และมนตร์ดำออกจากตัวเธอ เพราะเธอสงสัยว่าตัวเธอโดนของ แต่เมื่อไปถึงสำนักจอมขมังเวทย์รายนี้ บอกให้เธอถอดเสื้อเพื่อลงเสน่ห์ จากนั้นก็เอาอวัยวะเพศสอดใส่ไปที่ตัวเธอ ซึ่งตัวเธอก็ไม่ยอม แต่จอมขมังเวทย์รายนี้บอกว่าเป็นวิชาทางไสยศาสตร์ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ดีขึ้น จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจมาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด
ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากที่ตนเอง ถูกเพื่อนบ้านที่มีปัญหากันเรื่องที่ดิน ทำของคุณไสยมนตร์ดำใส่ ทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย ไม่เป็นตัวของตัวเอง และเหมือนมีคนจ้องมองตลอดเวลา นอนไม่ค่อยหลับ กินอาหารไม่ค่อยได้ จากนั้นตนเองได้ไปดูหมอดูกับพระ พระได้บอกว่าตนเองถูกทำคุณไสยใส่ จากนั้นจึงไปค้นหาข้อมูลจากโลกโซเชียล จนพบว่าเณรแอร์สามารถทำพิธีถอนของมนตร์ดำได้ จึงติดต่อไปซื้อยาถอนคุณไสยทางออนไลน์ และได้สั่งซื้อตะกรุดกับเกลือแก้คุณไสยมา หลักจากได้ของมาแล้วก็ลองใช้ดู แต่อาการก็ยังไม่หาย จึงได้ไปทำพิธีที่สำนักของเณรแอร์
เมื่อไปถึงก็ให้ตนเองไปทำพิธีถอนของ ในห้องส่วนตัวแบบสองต่อสอง และสั่งให้ตนเองถอดเสื้อผ้าออก และบอกว่าต้องมีเพศสัมพันธ์ด้วย คุณไสยที่เข้าตัวถึงจะหาย หลังทำพิธีครั้งนี้เสร็จ คุณไสยก็ยังไม่ออก เณรแอร์ได้แจ้งว่า ต้องมาทำอีกหลายครั้ง ไม่งั้นมนตร์ดำจะไม่หายไป ซึ่งตนเองก็หลงเชื่อไปหา เพื่อให้ทำพิธีถอนของด้วยวิธีนี้อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่ดีขึ้นเหมือนเดิม ยังถูกมนตร์ดำสิงสู่อยู่กับตัว
ล่าสุดทางเราโทรศัพท์ไปสอบถาม เณรแอร์ โดยเณรแอร์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว และไม่มีพฤติกรรมทำพิธีถอนของ ที่ว่าพาลูกศิษย์ไปทำพิธีในห้องส่วนตัวและมีเพศสัมพันธ์กัน ตนเองแค่รับทำพิธีอาบน้ำมนต์ในที่โล่งแจ้งเท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นตนคิดว่าเป็นการใส่ร้ายให้เสียชื่อเสียง
ต่อมาทางด้าน นายเอกภพ ได้พาผู้เสียหายเดินทางไปที่วัดสายไหม จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้อาจารย์อ๊อดวัดสายไหม ทำพิธีถอนคุณไสยให้ หลังทำพิธี ผู้เสียหายได้มีอาการแจ่มใสมากขึ้น จากนั้นได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเณรแอร์
สำหรับ เณรแอร์ โด่งดังจากคดี ปลุกเสกกุมารทองด้วยการย่างศพเด็ก และเมื่อปี 2558 ได้ถูกจับในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยศาลชี้ว่าเณรแอร์ใช้โอกาสที่ผู้เสียหายเกิดความทุกข์ ด้วยการหลอกลวงว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านไสยศาสตร์ เพื่อให้ผู้เสียหายร่วมทำพิธีและจ่ายทรัพย์สินให้จำเลย จึงสมควรลงโทษสถานหนัก ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 75 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อลงโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงความผิดแล้ว จำคุกได้ไม่เกิน 20 ปี โดยเณรแอร์ถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวมา
