สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - นายกรัฐมนตรี สั่งแถลงข่าวคืบหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ก่อนมุ่งหน้าตรวจราชการจังหวัดระยอง ดูระบบการส่งน้ำเข้าพื้นที่เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ โดยสารรถไฟจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจราชการภาคตะวันออก ชลบุรี-ระยอง ได้รับทราบรายงานจาก นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ว่า แม้จะได้รับแรงผลักดันมาจากนโยบายวีซาฟรี แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทย ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 60-70% จากปี 2562 จึงยังต้องช่วยกันผลักดันอยู่
นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องการปรับมาใช้เครื่องในการตรวจผู้โดยสารขาออก 15 ธันวาคม เป็นต้นไป จะใช้เครื่อง และกำลังคนผสมกันที่สามารถดักจับได้ทั้งอาชญากร ผู้ที่พำนักอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และผู้ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ถ้าหากตกลงกันจนได้ข้อสรุปภายในปีนี้ คาดว่า ในเดือนกรกฎาคม ปี2567 จะปรับมาใช้เครื่องตรวจผู้โดยสารขาออกแทนคนได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ในระหว่างการประชุมบนรถไฟ ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เบื้องต้นพบว่าล่าช้าเพียง 1.8% เหตุผลหลักมาจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ และปัญหาเรือขุดจากจีนเข้าไทยไม่ได้ เพราะสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว จะแล้วเสร็จตามแผนเดือนมิถุนายน ปี 2567 และเมื่อ EEC เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าอัตราการรองรับขนถ่ายสินค้าของท่าเรือ จะขยับไปอยู่ที่อันดับ 13-15 ของโลก ซึ่งเรื่องนี้จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามได้ตั้งคณะกรรมการย่อยเป็นผู้ประสานงานกับภาคเอกชน เพื่อรองรับการลงทุน สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้อย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ EEC
จากนั้นได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง เพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยมอบนโยบายเพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอในภาคอุตสาหกรรม และประชาชนในพื้นที่โดยรอบ ทั้งการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม โดยจะกลับมาอีก 60 วันข้างหน้า เพื่อมาดูเรื่องการแก้ไขปัญหา ที่รัฐบาลนี้จะทำงานอย่างรวดเร็ว และตอบโจทย์กับประชาชน นักลงทุนต่างชาติให้ได้มากที่สุด