ห้องข่าวภาคเที่ยง - ข่าวใหญ่วันนี้ไม่ขยี้ไม่ได้ อย่างที่เราได้เห็นข่าวต่อเนื่องหลายวันติดต่อกันเลย กับกรณีฝาท่อ ทั้งบำบัดน้ำเสีย ท่อเก็บสายไฟกลางถนน พร้อมใจเกิดอาการทรุด หลังรถบรรทุกวิ่งผ่าน เคสแรกรถบรรทุกไปแล้วฉลุยเลย ทิ้งหลุมใหญ่ไว้ให้รถคันหลังรับกรรมไป ส่วนที่เป็นเรื่องเป็นราว ให้สาวไปถึงส่วยสติกเกอร์ คือกรณีล่าสุดเมื่อวานนี้ รถบรรทุกขนดินไปต่อไม่ไหว ค้างเติ่งประจานตัวเองว่าบรรทุกน้ำหนักเกินอยู่ในที่เกิดเหตุ คนตาดีเห็นภาพชัด หน้ารถมีสติกเกอร์ดาวดวงใหญ่สีเขียว มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ B แปะอยู่หน้ากระจกรถ ตามมาด้วยปฏิบัติการแฉ นี่แหละบัตรผ่านทางให้บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำกันกลางกรุงเลย ทำเอา ผบช.น. เต้นเลย สั่งสอบขีดเส้นรายงานผลภายใน 3 วัน ไปติดตามกัน
เปิดจราจร ถ.สุขุมวิท ขาเข้า 64/1-64/2 แล้ว หลังฝาบ่อฯ ทรุด
ไปติดตามความคืบหน้ากันก่อนว่า หลังจากเกิดเหตุฝาบ่อท่อร้อยสายไฟลงใต้ดินชั่วคราวทรุดตัวช่วงเที่ยง ๆ ของเมื่อวานนี้ กว่าจะกู้เอารถบรรทุกขึ้นมาได้ก็ปาเข้าไปประมาณ 21.00 น. ของคืนวานนี้ ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา เปิดการจราจรถนนสุขุมวิท ขาเข้า ระหว่างซอย 64/1 และ 64/2 ได้ตามปกติแล้ว โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้แก้ไขเสริมความแข็งแรงให้กับฝาบ่อฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคืนช่องจราจรให้รถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แต่เรื่องนี้ยังคงต้องหาผู้รับผิดชอบด้วย รวมถึงการปราบส่วยรถบรรทุกน้ำหนักเกินด้วย
เร่งตรวจสอบ รถบรรทุกขนน้ำหนักเกินหรือไม่
มีรายงานว่า คนขับและเจ้าของรถบรรทุกดินคันดังกล่าวไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้นำเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่มาทำการชั่งน้ำหนักการบรรทุก และไม่ยอมใช้รถยกรวมทั้งรถตักดินที่ทางการจัดหามาให้ แต่ได้นำรถเครนและรถแบ็กโฮมาเอง แล้วตักดินออกจากรถบรรทุกที่ประสบเหตุไปใส่รถบรรทุกอีกคัน แล้วนำไปเทในไซต์งานก่อสร้างทันที โดยไม่ยอมให้มีการชั่งน้ำหนักก่อน ยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และพยายามทำลายหลักฐานหรือไม่ ที่สำคัญคือ ตำรวจปล่อยให้ดำเนินการเช่นนั้นได้อย่างไร
โดยเหตุการณ์นี้ก็เรียกว่าเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทีมงาน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เลย ก็เลยมีการขี่รถจักรยานยนต์ตามรอยไปจนถึงไซต์งานก่อสร้าง แต่ปรากฏว่ามีการปิดประตูล็อกไว้ ซึ่งเมื่อถ่ายผ่านช่องประตูไป ก็เห็นรถบรรทุกที่ขนดินไปจากที่เกิดเหตุ นำดินไปทิ้งไว้ที่ไซต์ก่อสร้าง
จากฝาท่อพัง สู่ส่วยสติกเกอร์
จากฝาปิดบ่อท่อร้อยสายพัง ลามไปถึงเรื่องส่วยสติกเกอร์ เพราะบังเอิญมีผู้ตาดี ไปเห็นสติกเกอร์ดาวดวงใหญ่สีเขียว มีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว B แปะอยู่หน้ากระจกรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุ ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกสติกเกอร์ที่เห็น ชัดเจนเลยว่าเป็นสัญลักษณ์เสมือนใบเปิดทาง บอกตำรวจว่ารถคันนี้ได้เคลียร์เส้นทางกับเจ้าหน้าที่แล้ว จากนี้ต้องสืบกันต่อว่า เป็นรถใคร สำหรับปัญหาส่วยสติกเกอร์ยังไม่หมดไป สติกเกอร์ส่วยกลายเป็นอมตะไปแล้ว แถมเท่าที่รู้ว่า เมื่อก่อน 1 ดวงราคาหลักพันบาทต่อเดือน เดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่เข้มงวดหนัก ทำให้ราคาสติกเกอร์ส่วยกระโดดไปหลักหมื่นบาทต่อคันต่อเดือน
ตรวจสอบสติกเกอร์ B หน้ารถ สัญลักษณ์ส่วยกลางกรุงหรือไม่
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกเดี๋ยวนี้ในกรุงเทพฯ ยิ่งก่อสร้างเยอะ สติกเกอร์ยิ่งแพร่สะพัดในกรุงเทพฯ สติกเกอร์ที่เห็น คือสติกเกอร์เปิดทางให้รถบรรทุก ทำผิดกฎหมายแบบระยะเวลาสั้น ๆ 10 วัน ย้ำส่วยสติกเกอร์ ไม่ใช่ฟื้นคืนชีพ แต่ยังไม่หมดไป
เร็ว ๆ นี้กลุ่มรถบรรทุกจะหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา แต่เท่าที่คุยกับ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ด้วยตัวเอง คุณอภิชาติ ย้ำว่า ท่านชัชชาติเอาจริง ระวังกันไว้ด้วย
วิโรจน์ บี้ ตร. แจงส่วยสติกเกอร์ ปล่อยทำลายหลักฐาน
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามตัวโต ๆ เลยคุณผู้ชม สติกเกอร์ดาวสีเขียว พร้อมอักษรตัวภาษาอังกฤษตัว B นั้นมีการจ่ายส่วยให้ตำรวจ ผู้กำกับ สน.พระโขนง หรือ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 หรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ผู้กำกับ และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ออกมาชี้แจงหน่อย รวมถึงประเด็นการตักดินออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยมีตำรวจจราจรเปิดทางให้ สมควรหรือไม่ เพราะดินที่ตักออกไปคือวัตถุพยาน ที่จะแสดงให้เห็นว่าบรรทุกเกินน้ำหนักหรือไม่
นายวิโรจน์ ยังบอกอีกว่า สติกเกอร์ดาว B ที่เห็นเนี่ย ย่อมาจาก เสี่ยบิ๊ก แต่จะบิ๊กไหน ใช่บิ๊กที่จ่ายส่วยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องรอตำรวจพื้นที่อย่าง สน.พระโขนง ผู้กำกับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ออกมาชี้แจงข้อสงสัยของประชาชน ว่าสรุปแล้วสติกเกอร์ที่ติดคืออะไรกันแน่
ผกก.สน.พระโขนง ยัน ไร้ส่วยสติกเกอร์
เปิดประเด็นกันมาแบบนี้ก็ต้องไปสอบถาม พันตำรวจเอก โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และตกเป็นจำเลยว่า อาจมีการจ่ายส่วยสติกเกอร์ให้กับตำรวจในพื้นที่ ท่านบอกว่าได้รับทราบเรื่องสติกเกอร์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรม เพราะยังหาความเชื่อมโยงไม่ได้ว่าสติกเกอร์ดังกล่าว คือสัญลักษณ์การจ่ายส่วยหรือไม่ และยืนยันว่าในพื้นที่เขตพระโขนง ไม่มีการร้องเรียนเรื่องส่วยสติกเกอร์ แต่มีการร้องเรียนเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกินอยู่บ้าง
ผบช.น. สั่งตั้ง กก. สอบสติกเกอร์ตัว B ขีดเส้นรายงาน 3 วัน
ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รูปดาวมีตัวอักษร B สีเขียว ที่ติดอยู่หน้ากระจกรถบรรทุกคันดังกล่าว ว่าเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์หรือไม่ และรายงานผลด่วนภายใน 3 วัน
โดยมอบหมายให้ พันตำรวจเอก ภพธร จิตติ์หมั่น รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ล่าสุด คณะกรรมการชุดนี้ได้เรียกประชุมแล้ว ในช่วงบ่ายน่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้
ผบ.ตร. วอน อย่าเพิ่งฟันธง สติกเกอร์ B คือ ส่วยสติกเกอร์
ขณะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พูดถึงประเด็นนี้ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่กำกับดูแลรับผิดชอบ มีหน้าที่ตรวจสอบประเด็นดังกล่าว ว่าสติกเกอร์ที่ปรากฏที่บริเวณหน้ารถบรรทุกเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาว่า ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ใดหรือไม่ และเห็นว่าการจะกล่าวหาเรื่องส่วยสติกเกอร์ต้องมีหลักฐาน ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และความขัดแย้งในสังคม อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งวินัยและอาญา