สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ใครรอจับเงินหมื่นจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้ข้อสรุปมาแล้ว ว่ารัฐบาลจะ "กู้มาแจก" ด้วยการออกพระราชบัญญัติกู้เงิน 500,000 ล้านบาท ส่วนผู้มีสิทธิก็ต้องมีรายได้ต่ำกว่า 70,000 บาทต่อเดือนลงไป และหรือมีเงินในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท พอสิ้นเสียงนายกฯ เศรษฐา แถลงเท่านั้น ชาวเน็ตว้าวุ่นไม่ไหว #ดิจิทัลวอลเล็ต ขึ้นเทรนด์ X กันเลย
หลายคนบอกไม่สมกับที่รอคอย เพราะแม้นายกฯ เศรษฐา จะให้รายละเอียดมาแล้ว แต่มันไม่ตรงปก เลยทำให้ออกอาการเซ็งเป็นแถว อย่างที่เห็นในภาพ #ดิจิทัลวอลเล็ต พุ่งติดเทรนด์ X ทันที
และพอไปดูไส้ในก็จะเห็นเสียงบ่น เรียกว่าร้อยทั้งร้อยเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่า "ไม่เหมือนที่คุยเอาไว้" "ไม่ตรงปก" ว่าอย่างนั้น ตามมาด้วยคำถามอีกหลายอย่าง เช่น กู้มาแจกนี่ใครต้องใช้หนี้ ใช้จ่าย 6 เดือน จะเป็นพายุหมุนเศรษฐกิจได้ยังไง โฆษณาเอาไว้ว่าจะแจกผู้มีรายได้น้อย แต่เงินดิจิทัลต้องใช้สมาร์ตโฟนรับเงิน แลกเป็นเงินสดไม่ได้ เป็นผู้ยากไร้แบบไหน บางคนก็บอกว่าออกหลักเกณฑ์มาแบบนี้สรุปกลุ่มทุนได้ไปหมด จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟก็ไม่ได้ สุดท้ายรับรองเลยมีร้านค้าตัดหัวคิวจ่ายเงินสดสัก 7,000-8,000 บาท แลกเงิน 10,000 บาทแน่ ๆ บ้างก็ว่ามีประโยชน์น้อยกว่าคนละครึ่งซะอีก เป็นต้น
มาไล่ดูกันหน่อย ออกหลักเกณฑ์มาอย่างไร ทำไมชาวเน็ตถึงว้าวุ่นกันขนาดนี้ รวบรวมเปรียบเทียบให้ดูเลย ว่าเคยพูดไว้อย่างไร ที่กำลังจะทำจริงตอนนี้เป็นอย่างไร เริ่มจาก บอกไว้หนักแน่น ไม่กู้มาแจก ปรากฏว่า ต้องกู้ จะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ, อายุ 16 ปีขึ้นไปได้กันถ้วนหน้า ปรากฏผู้มีสิทธิต้องมีเงินเดือนต่ำกว่า 70,000 บาท และหรือมีเงินในบัญชีไม่ถึง 5 แสนบาท ครอบคลุมประชากร 50 ล้านคน, ที่บอกได้จับเงินหมื่นแน่ ๆ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้า ของจริงให้รอไปเดือนพฤษภาคม ปีหน้า, เคยบอกไว้ ใจป้ำจ่ายรวดเดียวจบ ก็ยังไม่ชัดจ่ายรวดเดียวหรือจะมีแบ่งจ่าย และสุดท้ายเคยบอกจะพัฒนาแอปฯ ใช้บล็อกเชน ไม่เอาหรอก เป๋าตัง ปรากฏว่าต้องกลับมาใช้แอปฯ เป๋าตัง
และอาจเป็นเพราะมันไม่ตรงปก มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป อาจเรียกได้ว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลย ก็เลยทำให้เมื่อวานนี้ หลังนายกฯ เศรษฐา แถลงจบ ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามเลย
จากคำแถลงของนายกฯ เศรษฐา คุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟันธงล่วงหน้าเลยว่า สรุปแล้วโครงการนี้ไม่ได้ทำ ถึงทางตันแล้ว ที่บอกจะออก พ.ร.บ.เงินกู้ ก็เพราะรู้ดีว่าจะมีปัญหาข้อกฎหมาย สุดท้ายก็จะมีคนไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จนตีตกไป และให้ศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นแพะรับบาปว่าทำให้โครงการไปต่อไม่ได้
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แนะนำด้วยว่า อยากให้ นายกฯ เศรษฐา ยอมรับความจริง ขอโทษประชาชน ว่าโครงการเดินต่อไม่ได้ ดีกว่าดันทุรังไปต่อทั้งที่รู้ว่าเป็นทางตัน และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งประชาชนต้องตัดสินในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ขณะที่ พี่ศรี ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินศรีสุวรรณ ยังคงเป็นเสือปืนไว เตรียมไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมออกกฎหมายกู้เงินมาแจก 10,000 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากเห็นว่าน่าจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ประกอบ มาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ เพราะมิได้เป็นเหตุเร่งด่วนใด ๆ ที่จะต้องกู้เงินมาแจก ไม่เหมือนสมัยที่มีวิกฤตการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่รัฐจำเป็นต้องกู้เงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ