เช้าข่าว 7 สี - เกิดเหตุพลุระเบิด และทำให้โรงเรือน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตพลุ แรงระเบิดยังส่งผลกระทบกับบ้าที่อยู่ใกล้เคียง ส่วนสาเหตุมาจากการเร่งผลิตพลุส่งขายในช่วงงานประเพณียี่เป็ง
เป็นสภาพความเสียหายของโรงเรีอน 2 ชั้น ที่ปลูกสร้างแยกจากตัวบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แรงระเบิดทำให้หลังคาของโรงเรือนดังกล่าวหายไปเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนใกล้เคียงถูกแรงอัด ทำให้กระจก ฝ้า เพดาน และกระเบื้องหลังคา ได้รับความเสียหายไป 4 หลัง แต่ไม่มีเพลิงลุกไหม้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจภูธรแม่โจ้ เข้าไปตรวจสอบ พบร่าง นายตุ่น อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตบริเวณชั้นล่างของโรงเรีอนที่เกิดเหตุ จากการสอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายตุ่น มีความชื่นชอบในการผลิตพลุ ทำบั้งไฟ เพื่อไปร่วมงานบุญ และส่งขายในงานประเพณียี่เป็ง แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน จะทำเป็นครั้งคราวเท่านั้น ครอบครัวเคยร้องขอให้หยุดทำแล้ว แต่เพราะความชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก จึงต้องปล่อยไปเลยตามเลย และระหว่างเกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ด้วย เพราะออกไปทำธุระนอกบ้าน
หลังเกิดเหตุ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ พร้อมเปิดเผยว่า ทราบว่าเจ้าของบ้านนั้นชอบทำบั้งไฟและพลุ โดยเป็นการลักลอบทำ ซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลตำบลป่าไผ่ เคยห้ามปรามและว่ากล่าวตักเตือนแล้ว รวมทั้งได้แนะนำว่าถ้าหากต้องการจะทำบั้งไฟและพลุจริง ก็ขอให้ไปขอใบอนุญาตจากทางอำเภอให้ถูกต้อง ซึ่งครั้งนี้ผู้เสียชีวิตก็นั่งทำบั้งไฟอยู่หลังเกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตามจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ มีการระเบิดของโรงงานผลิตพลุมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด ครั้งนั้นมีบ้านพังถึง 30 หลัง มีผู้บาดเจ็บกว่า 10 คน ซึ่งเหตุการณ์โรงงานพลุเถื่อนระเบิดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบต่อไป
