ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ร่วมหารือกับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของนาน 4 ชั่วโมง ก่อนการประชุมเอเปก โดยผู้นำทั้งสองได้มีการเปิดอกคุยอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศที่ตึงเครียด และจะกลับมาติดต่อทางการทหารอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นช่องแคบไต้หวัน และปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง
วันนี้ (16 พ.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เปิดคฤหาสน์ตากอากาศ “ฟิโลลิ” (Filoli estate) ทางใต้ของนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้อนรับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน เพื่อร่วมหารือระหว่างกัน โดยตลอดการหารือนาน 4 ชั่วโมง ผู้นำทั้ง 2 ได้มีการเปิดอกคุยอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาที่แท้จริงที่ทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศตึงเครียด ก่อนจะตกลงร่วมกันว่าในอนาคตจีนและสหรัฐฯ จะใกล้ชิดกันมากกว่านี้ และมีรายงานว่า ผู้นำทั้งสองได้ตกลงร่วมกันว่าจะกลับมาติดต่อทางการทหารอีกครั้ง หลังจากที่ยุติไปตั้งแต่ที่นาง แนนซี เพโลซี ประธานสภาสหรัฐฯ ในขณะนั้นเยือนไต้หวันอย่างกะทันหันเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
โดยในการหารือยังได้หยิบประเด็นความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวันขึ้นมาพูดด้วย ซึ่งประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวว่า นี่คือประเด็นที่ใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุดในการหารือ 4 ชั่วโมง ร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยจีนต้องการจะรวมประเทศอย่างสันติและยืนยันว่า ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อบุกรุกไต้หวันแต่อย่างใด ทั้งนี้จีนยังพยายามหยิบยกเงื่อนไขบางประการที่จะสามารถใช้กำลังกับไต้หวันได้ขึ้นมาหารือด้วย
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือ ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยสหรัฐฯ ขอให้จีนเรียกร้องให้อิหร่านยุติการยั่วยุในตะวันออกกลาง รวมไปถึงยังมีประเด็นอื่น ๆ อาทิ ความร่วมมือในการควบคุมการผลิตสารเสพติดอย่างเฟนตานิลและประเด็นความเสี่ยงของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ด้วย