พระอายุ 69 ปี มรณภาพปริศนา ญาติสงสัยถูกพระร่วมกุฏิทำร้าย จ.นครศรีธรรมราช

View icon 145
วันที่ 20 พ.ย. 2566 | 05.09 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลูกชายของพระอายุ 69 ปี แจ้งความร้องทุกข์ สงสัยว่า "หลวงพ่อ" ถูกทำร้ายจนมรณภาพ เนื่องจากพบรอยเขียวช้ำทั่วร่างกาย ด้านพระร่วมกุฏิอ้าง หลวงพ่อลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น ก่อนพระรูปดังกล่าวจะหายตัวไปจากวัด พฤติกรรมดังกล่าวจึงส่อแววพิรุธ   

เครือญาติร่วมกันประกอบพิธีทางศาสนาให้กับ พระประโยชน์ อายุ 69 ปี ท่านมรณภาพช่วง 03.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาล เนื่องจากลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น จนเลือดคั่งในสมอง

นายนราวุฒิ ลูกชายของพระประโยชน์ เล่าว่า วันเกิดเหตุทางวัดแจ้งว่า หลวงพ่อลื่นล้มในห้องน้ำ เห็นรอยช้ำบริเวณศีรษะ และมีอาการอาเจียน จึงเชื่อว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง  

หลังท่านมรณภาพแล้ว ระหว่างที่ผลัดเปลี่ยนจีวรให้ สังเกตเห็นรอยเขียวช้ำที่แผ่นหลัง, หน้าอก, ต้นขา และอีกหลายจุดตามร่างกาย ญาติ ๆ จึงคาใจว่า หลวงพ่ออาจถูกทำร้ายจนมรณภาพ 

อีกสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวสงสัยว่าหลวงพ่ออาจถูกทำร้าย  ก็เนื่องจากมีคนในวัดให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าและช่วงบ่าย วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลวงพ่อมีปากเสียงโต้เถียงกับพระอีกรูป ที่เพิ่งมาอาศัยอยู่ร่วมกุฏิเดียวกัน เรื่องอาหารที่รับบิณฑบาต กระทั่งช่วงเย็น พระร่วมกุฏิจึงแจ้งกับพระรูปอื่น ๆ ในวัด ว่า พระประโยชน์ลื่นล้มในห้องน้ำ ให้รีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพ 

ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากพระลูกวัด ซึ่งอยู่กุฏิใกล้ ๆ กับพระประโยชน์ ทราบว่า พระต้องสงสัย มีอายุ 67 ปี ไม่ใช่พระที่วัดนี้ แต่เป็นอดีตนายตำรวจ และเป็นเครือญาติของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ด้วยมีกิจธุระต้องทำ จึงขออนุญาตเข้าจำวัดชั่วคราว ประมาณ 3-4 วัน   
 
วันเกิดเหตุเห็นพระประโยชน์ล้มหงายหลังอยู่ในกุฏิ ขาขวาพาดอยู่บนเบาะ มือขวายึดจับประตูกุฏิไว้ แต่ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ ส่วนพระต้องสงสัย มีท่าทีร้อนรน ยิ่งเมื่อได้ยินว่าพระประโยชน์อาพาธหนัก พระต่างถิ่นก็บอกกับทุกคนในวัดว่ามีธุระด่วน ก่อนจะเร่งรีบออกจากวัดไปทันที 

ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ชัดในสาเหตุการมรณภาพ ลูกชายจึงแจ้งความให้ตำรวจส่งร่างพระประโยชน์ไปชันสูตรอย่างละเอียดว่า เข้าข่ายคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายหรือไม่ 

ล่าสุด ทางวัดสามารถติดต่อพระต้องสงสัยได้แล้ว เมื่อถามว่าท่านอยู่ที่ไหน คำตอบ คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงนิมนต์ให้กลับมาที่วัด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ พระรูปดังกล่าวปฏิเสธ อ้างขาดปัจจัยค่าเดินทาง แถมกล่าวข่มขู่ หากพระรูปใดให้ข้อมูล ตนจะฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง