พนักงานเก็บขยะเขตหลักสี่ ประท้วงขับไล่ 2 หัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดฯ 2 มาตรฐานสับเปลี่ยนงานไม่แจ้ง แต่งตั้งบรรจุไม่เป็นธรรม
(20 พ.ย.66) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่สำนักงานเขตหลักสี่ พนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถเก็บขยะ กว่า 50 คน รวมตัวประท้วงขับไล่ หัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตหลักสี่ จำนวน 2 คน หลังออกคำสั่งโยกย้ายพนักงาน 2 มาตรฐาน บังคับเขียนหนังสือแต่งตั้งยกเส้นแต่งตั้งอย่างไม่เป็นธรรม
นายสิทธิกานต์ อายุ 37 ปี พนักงานขับรถเก็บขนมูลฝอย ระบุว่า เหตุหยุดงานประท้วง เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีการประชุมเกี่ยวกับแผนการทำงาน โยกย้ายพนักงานขับรถ และพนักงานติดรถ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า บางคนถูกโยกลงมาเป็นอะไหล่ถูกยุบหน้าที่ ส่วนงานของคนที่ถูกยุบ ได้กระจายให้คนอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่อยู่แบ่งกันทำ บางคนถูกโยกเวลาจากเช้าไปบ่าย จากบ่ายมาเช้า ทั้งที่ ผอ.เขตไม่ทราบเรื่อง ที่สำคัญการการโยกย้ายสลับพนักงานในสายต่าง ๆ หากไม่เคยวิ่งมาก่อน จะไม่รูซอยนี้เข้าได้หรือไม่ ซอยไหนต้องถอยรถเข้าหรือต้องเข้าทางไหน รวมถึงปริมาณขยะที่แต่ละคัน ก็รับกันแบบเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อยุบรถไปก็กลายเป็นว่า รถที่วิ่งอยู่ต้องวิ่งคันละ 2 เที่ยวเพื่อมาทดแทนสายที่หายไป ซึ่งส่วนนี้อ้างว่าเป็นนโยบายของ กทม. ทำให้การทำงานเป็นไปได้ยาก จึงมองว่าอาจจะเป็นการสั่งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
อีกทั้งมีการเรียกให้เข้าไปพูดคุย เขียนบันทึกข้อความ ของดเว้นการบรรจุเป็นพนักงานประจำในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อให้เพื่อนอีกคนเข้ารับการบรรจุไปก่อน โดยให้ระบุว่า หาเอกสารการเกณฑ์ทหารไม่พบ ทั้ง ๆ ที่ตนมีพร้อม และตนเองให้เข้ารับการบรรจุในปีถัดไป ทั้ง ๆ ที่ตนเองมีเอกสารครบหมดทุกอย่าง แต่ตนยังไม่ทำหนังสือดังกล่าวไป และตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนาดังกล่าว และที่ชูป้ายประท้วง เพราะมีการโยกย้ายหน้าที่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ปฏิบัติกับพนักงาน 2 มาตรฐาน บางคนมาตี 4 สายเพียง 1 นาที ตัดขาดแต่บางคนมาตี 5 กลับไม่ถูกตัดขาด
ด้านนายประทุม อายุ 55 ปี หัวหน้าพนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) เผยว่า หลังเข้าไปพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น กลับถูกหัวหน้าคนเดียวกันออกหนังสือคำสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ระบุว่าตนมีพฤติกรรมกระด้าง กระเดื่อง ก้าวร้าวข่มขู่ผู้บังคับบัญชา สุดท้ายก็ยกเลิกหนังสือฉบับนี้ไป อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับเพื่อนพนักงานกว่า 50 คนต้องการให้ ทั้ง 2 คนย้ายออกจากเขตหลักสี่ไป เพราะถ้ายังอยู่จะทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามแผนงานที่ทาง กทม. สั่งการมา
ต่อมานางสมฤดี ลันสุชีพ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ได้ลงมาพูดคุยกับกลุ่มพนักงาน โดยระบุว่าการไม่สามารถสั่งย้ายหัวหน้าทั้ง 2 คนได้ทันที ต้องทำตามขั้นตอน ซึ่งมีระเบียบอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกกลั่นแกล้ง ให้มาเขียนเรื่องร้องเรียนเอาไว้ แล้วจะนำพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
