กักขังฉันเถิดกักขังไป ป้าร้องเพลงจำเลยรักให้ตำรวจฟัง หลังถูกจับค้ายาบ้า สารภาพน้อยใจลูกไม่ส่งเงินให้ใช้ ต้องขายยาแลกข้าวเปลือกมาเลี้ยงผัวป่วย
19 พ.ย.2566 นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคาม พร้อม ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบรบือ สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บรบือ ลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในเขตพื้นที่อำเภอบรบือ สามารถจับกุมตัวนาย วีระพงษ์ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 11 เม็ด ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย สอบถามรับว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจาก นางคำมี อายุ 55 ปี ชาวหมู่ 6 ตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงหน้าบ้านของนางคำมี พบเจ้าตัวยืนอยู่ใต้ถุนบ้านลักษณะมีพิรุธ รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแต่ปิดประตูไม่ทัน ตำรวจจึงขอตรวจค้นบ้าน พบยาบ้าอยู่ใต้ตู้เย็น จำนวน 98 เม็ด ในตู้เสื้อผ้าอีก 14 เม็ด โดยจะนำไปขายให้กลุ่มลูกค้าและวัยรุ่น ในราคา 1 เม็ด 50 บาท นางคำมี บอกอีกว่า ยาบ้าที่มี ตนเองจะนำไปแลกข้าวเปลือก มาไว้เลี้ยงสามี ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยยาบ้า 4 เม็ด สามารถแลกข้าวเปลือกได้ จำนวน 1 กระสอบปุ๋ย
ทั้งนี้นางคำมี ระหว่างที่ถูกนำตัวไปสถานีตำรวจ ก็ได้ขอร้องเพลงสอนลูก โดนแปลงจากเพลง จำเลยรัก ให้ตำรวจฟัง ในท่อนที่้ร้องว่า
"กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า อย่าขังหัวใจให้ทรมาน ให้แม่เศร้าโศกา หรือบีบน้ำตาอ้อนวอนใคร ๆ เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา จนสมอุราจนสาแก่ใจ ไม่มีวันที่ฉันจะร้องไห้ "
หลังร้องจบ นางคำมี ก็บอกว่า ตอนนี้เศร้ามากและคิดถึงลูก ที่ร้องออกมาเพราะอยากระบาย รู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว สำหรับนางคำมี บอกว่า มีลูก 2 คน คนเล็กส่งเงินให้ตนเองใช้ทุกเดือน ส่วนคนโตไม่ยอมส่งเงินให้ตนเอง จึงรู้สึกน้อยใจกับลูกคนโต จึงกระทำผิดและยอมให้จับกุมและกักขังโดยดี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุดรังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป