แตกตื่นทั้งโรงเรียน หนุ่มสะพายธนูเข้ามาเดินรอบสนามฟุตบอล ครูเข้าไปถามถูกโก่งคันธนูใส่ ตร.รุดเข้าคุมสถานการณ์ เจอย้อนถาม ตร.ยังพกปืนได้
แตกตื่นทั้งโรงเรียน วานนี้ (20 พ.ย.66) ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายเดินถือธนู พร้อมลูกธนู อยู่ในสนามฟุตบอล โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อ.เมือง จ.อุดรธานี เกรงว่าจะเกิดเหตุอันตรายต่อเด็กนักเรียน ที่กำลังฝึกซ้อมกีฬา ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 20 – 25 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ทับด้วยเสื้อกั๊กไหมพรม กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ ในมือข้างซ้ายถือคันธนู ที่เอวคาดซองใส่ลูกธนู
ขณะเกิดเหตุนักเรียนกำลังจัดกิจกรรมกีฬาสีอยู่ ทำให้เด็กนักเรียนตกใจและแตกตื่น อาจารย์จึงตะโกนบอกให้นักเรียนที่ยังทำกิจกรรมอยู่ ให้ถอยห่างออกจากชายคนดังกล่าว นักเรียนหลายคนต้องวิ่งไปหลบอยู่ในอาคารเรียน ส่วนอาจารย์และพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงเรียน ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ
เมื่อตำรวจสายตรวจมาถึง ได้ขับรถเข้าไปจนประชิดตัวชายคนดังกล่าว พร้อมกับบอกให้หยุดเพื่อเจรจาพูดคุย ชายคนดังกล่าวไม่มีท่าทีขัดขืนหรือตกใจ ยืนนิ่งให้สอบถาม แต่มีสีหน้าเคร่งเครียด ตำรวจได้แจ้งว่าเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในโรงเรียน ทั้งยังถืออาวุธอันตรายเข้ามาด้วย จึงขอเชิญตัวให้ออกนอกบริเวณ ชายคนดังกล่าวโต้เถียงว่า ตำรวจยังพกอาวุธปืนได้ ก่อนจะเดินออกไปจากสนามฟุตบอลไปขึ้นรถยนต์เก๋ง ที่จอดไว้หน้าอาคารเรียน ประมาณ 300 เมตร
นายสวย รูปสวย อายุ 61 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยโรงเรียนฯ เล่าว่า ได้รับแจ้งจากครูผู้ชายท่านหนึ่งว่ามีชายต้องสงสัย สะพายคันธนูและลูกธนูเข้ามาเดินวนอยู่ในสนามฟุตบอลโรงเรียน เมื่อครูเดินเข้าใกล้เพื่อสอบถาม ชายคนนั้นได้ยกคันธนูขึ้นมาเล็งใส่ครู ครูจึงตกใจและรีบวิ่งมาบอก ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ และบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่ง รีบเข้ามาที่สนามฟุตบอลเพื่อควบคุมสถานการณ์
“ตอนนั้นเด็กๆ ยังอยู่ในสนามพอสมควร ตนจึงรีบตะโกนบอกเด็กถอยห่างออกไป ชายคนนั้นเดินวนรอบสนามประมาณ 3 รอบ พอตำรวจมาถึงก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ตนไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน จากท่าทางคิดว่าเขาคงสติไม่ค่อยดี เบื้องต้นได้ถ่ายภาพไว้ เพื่อคัดกรองไม่ให้กลับเข้ามาในโรงเรียนอีก”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวเดินมาถึงรถยนต์เก๋งของตัวเอง ได้ถอดชิ้นส่วนคันธนู และเก็บอุปกรณ์ใส่รถ เมื่อเก็บเรียบร้อย ได้เดินมายกมือไหว้ตำรวจทั้ง 2 นาย บอกเพียงว่าผมชื่อ “เวน” และขอโทษต่อสิ่งที่กระทำลงไป เมื่อตำรวจถามว่าเป็นศิษย์เก่าที่นี่หรือไม่ บัตรประชาชนหรือไม่ อายุเท่าไหร่ บ้านอยู่ที่ไหน ชายคนดังกล่าวบอกเพียงว่าผมขอเวลาแค่ 19.00 น. ขอให้หยุดคำถาม และชายคนนั้นก็ขึ้นรถเก๋งขับออกไป
