ห้องข่าวภาคเที่ยง - ปมร้อนขายประกันเกินงามลามโรงเรียน โดยใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือ ให้ได้ข้อมูลของผู้ปกครอง ล่าสุด บริษัทประกันในเครือธนาคาร ก็ชี้แจง และสั่งไล่ตรวจสอบตัวแทนที่ก่อพฤติกรรมโทรขายประกันจากฐานข้อมูลที่ได้มาจากโรงเรียนแล้ว ซึ่งถ้าผิดจริงก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาด
อย่างที่บอกไปตอนต้น หลังธุรกิจประกันลามโผล่โรงเรียน ไม่ว่าจะทั้งในภาคเหนือ, ภาคอีสาน รวมทั้ง กรุงเทพฯ โดยมาในรูปแบบ "ใบงาน" ให้เด็กนักเรียนระบายสีภาพ แต่แฝงทำแบบสำรวจสอบถามข้อมูลเรื่องการออมเงิน และขอข้อมูลส่วนตัวของผู้ปกครอง เพื่อใช้เป็นใบเบิกทาง ให้มีโอกาสโทรศัพท์ขายประกันกับผู้ปกครองตรง จนสร้างความเดือดร้อนนั้น
ล่าสุดบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้ได้มาซึ่งข้อมูล ตามวิธีการที่เกิดกระแสข่าวขึ้น พร้อมแจ้งด้วยว่า ทำการตรวจสอบขั้นต้น พบว่าบุคคลที่กระทำการดังกล่าว เป็นตัวแทนที่มีสัญญากับบริษัท และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพิ่มอีก
หากพบตัวแทนของบริษัทมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ดำเนินงานขายขัดต่อหลักการทางจริยธรรมและข้อกำหนดของบริษัท จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป และทางบริษัท ก็ยังได้ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ทีนี้เมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝั่งบริษัท "ขายประกัน" จริง ๆ พฤติกรรมขุดบ่อล่อปลา-ลวงข้อมูล แบบนี้ ก็มีคำยืนยันจากนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นตัวแทน หรือ นายหน้า ขายประกันทุก ๆ ประเภท จะมีกรอบวิชาชีพต้องปฏิบัติ โดยเฉพาะการห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งหากฝ่าฝืนก็มีโทษตั้งแต่สถานเบาไปหาหนัก
เรื่องนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็บอกว่า ตามหลักวิชาชีพครู จะห้ามทำอาชีพอื่นในเวลาราชการ โดยเฉพาะข้อห้ามนำตำแหน่งหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ต่อตัวเอง แต่เพื่อความโปร่งใส และเป็นธรรม จะส่งทีมจากส่วนกลางร่วมตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน
เลขาธิการ กพฐ. ก็แอกชันในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ค้าประกันเกินงามลามโรงเรียนไปหลายพื้นที่ ก็คงต้องรอผลสอบสวน ตกลงโรงเรียนมีส่วนร่วมรับประโยชน์หรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้ หนึ่งในโรงเรียนที่เกิดเรื่อง อาทิ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้ชี้แจงแล้วว่า โรงเรียนถูกธนาคาร ซึ่งมีธุรกิจประกันในเครือ หลอกเหมือนกัน
และที่ต้องฝากอีกมุม ถ้าเอากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ กฎหมาย พีดีพีเอ มาจับกับกรณีนี้ โดยเจ้าของข้อมูลอย่างผู้ปกครอง ไม่ได้อนุญาตให้ใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อขายประกัน
แบบนี้ก็ต้องย้ำเตือนว่า กฎหมายพีดีพีเอ ปัจจุบันแรงอยู่เหมือนกัน เพราะอาจมีโทษทางปกครอง ปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
