ดีเอสไอ ตรวจค้นห้องเย็นสมุทรสาคร ไม่พบหมูเถื่อน แฉชิปปิงอ้างชื่อบริษัทสำแดงเท็จเป็นหัวปลาแซลมอน

ดีเอสไอ ตรวจค้นห้องเย็นสมุทรสาคร ไม่พบหมูเถื่อน แฉชิปปิงอ้างชื่อบริษัทสำแดงเท็จเป็นหัวปลาแซลมอน

View icon 52
วันที่ 21 พ.ย. 2566 | 15.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หมูอยู่ไหน ดีเอสไอ ค้นห้องเย็นสมุทรสาคร ไม่พบหมูเถื่อน เร่งตามหา 282 ตู้ฝากไว้ที่ไหน ด้านเจ้าของเตรียมแจ้งความ หลังถูกชิปปิงอ้างชื่อสำแดงเท็จเป็นหัวปลาแซลมอน

วันนี้ (21 พ.ย.66) พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเจ้าหน้าที่กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และชุดปฏิบัติการพิเศษดีเอสไอ เข้าตรวจค้นโรงรับฝากแช่เย็นขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ในตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร เนื่องจากดีเอสไอสืบสวนพบว่า โรงรับฝากแช่เย็นดังกล่าว มีบริษัทนอมินีของนักการเมืองชื่อดัง จำนวน 24 บริษัท ชิปปิงนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนสำแดงเท็จเป็นอาหารทะเล และสินค้าอื่นๆ มาจากต่างประเทศ โดยนำมาลงที่ท่าเรือแหลมฉบังและพื้นที่อื่นประมาณ 250,000 ตันหรือกว่าหมื่นตู้ ก่อนจะนำเนื้อหมูเถื่อนบางส่วนทยอยมาฝากไว้ที่ห้องแช่เย็นต่างๆ ซึ่งโรงแช่เย็นที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นวันนี้คือ 1 ในจำนวนนั้น

โดยเนื้อหมูเถื่อนถูกลักลอบนำเข้ามาในช่วงปี 2565 ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรค AFS ในหมู ทำให้มีภาวะขาดแคลนเนื้อหมูที่บริโภคในประเทศ กลุ่มนายทุนจึงสั่งเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาตุนไว้ภายในประเทศและนำออกจำหน่ายเพื่อหวังกำไร

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบที่ห้องเย็นครั้งนี้ สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมบริษัทชิปปิงไปก่อนหน้านี้ แล้วก็มีเอกสารที่ทางผู้ต้องหานำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ ว่ามีการฝากสินค้าที่ระบุว่าเป็น หัวปลาแซลมอน ไว้ที่ห้องเย็นแห่งนี้ ทางดีเอสไอจึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งผลที่ออกมาพบว่า โรงงานแห่งนี้ไม่มีการรับฝากสินค้าที่ผิดกฎหมาย ส่วนเอกสารที่บริษัทชิปปิงแสดงต่อกรมประมงว่านำสินค้าจำนวน 282 ตู้มาฝากไว้ที่ห้องแห่งนี้นั้น เป็นเอกสารเท็จที่แอบอ้างชื่อบริษัทแห่งนี้ เพื่อนำเอกสารเท็จไปสำแดงต่อกรมประมง

จากการตรวจค้นในวันนี้ก็ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่า บริษัทที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีแผนประทุษกรรมในการนำเข้าและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไร ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะเร่งดำเนินการต่อไปว่า สินค้าจำนวน 282 ตู้ที่มีการนำเข้าหมูเถื่อนโดยสำแดงเป็นหัวปลาแซลมอนนั้นได้ถูกนำส่งไปที่ไหน ขณะที่บริษัทห้องเย็นแห่งนี้ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกแอบอ้างชื่อนั้น ก็ได้มีการจัดเก็บเอกสารและขั้นตอนการปฏิบัติไว้เป็นอย่างดีและมีมาตรฐาน จึงทำให้เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อทางนี้ไม่ใช่ผู้รับฝากสินค้าแล้วนั้น ของทั้งหมดน่าจะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งก็จะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่อไป

ด้านผู้บริหารบริษัทห้องเย็น เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบของดีเอสไอในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการยืนยันความโปร่งใสให้กับทางบริษัทฯ โดยกระบวนการรับฝากสินค้านั้น บริษัทฯ มีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนของการรับฝากสินค้าเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีเอกสารมาแสดงก็จะไม่รับของอย่างเด็ดขาด ส่วนที่ถามว่าทำไมทางผู้ต้องหาถึงมีการแอบอ้างบริษัทฯ นั้น ถ้าจะให้สันนิษฐานก็เนื่องจากเราเป็นบริษัทใหญ่และมีมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ สามารถรองรับสินค้าได้จำนวนมาก ส่วนที่ผู้ต้องหาจะนำสินค้ามาฝากแล้วบริษัทฯ ปฏิเสธไป เพราะสำแดงเอกสารที่ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อปฏิบัติของทางโรงงาน ซึ่งการที่ผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อบริษัทฯ แล้วยังทำเอกสารอันเป็นเท็จสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยนั้น สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก ดังนั้น ทางบริษัทฯ ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่แอบอ้างอย่างแน่นอน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและเสถียรภาพความน่าเชื่อของบริษัทฯ ให้กลับคืนมาต่อคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ