ตำรวจพบหลักฐาน เจ้าอาวาสวัดดังหอบเงินกฐิน 7 แสนบาท หนีไปขึ้นรถตู้ที่ บขส.เมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าเข้า กทม. ส่วนชาวบ้านที่ถูกยืมเงิน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิด
จากกรณีเจ้าหน้าที่การเงิน ของวัดแห่งหนึ่งใน ต.ดอนกำยาน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังเจ้าอาวาสวัด และเป็นเจ้าคณะตำบล หอบเงินกฐินจำนวน 717,186.75 บาทหลบหนีไป ก่อนจะพบว่ามีชาวบ้าน ที่เป็นผู้เสียหายกว่า 30 คน ถูกเจ้าอาวาสยืมเงินส่วนตัวเพื่อทะนุบำรุงวัด รวมเป็นเงินประมาณ 4 ล้านบาท เริ่มทยอยออกมาให้รายละเอียด ขอให้เจ้าอาวาสนำเงินมาคืน
ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ย.66) นายจิตรติ รามเนตร รักษาการนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับชาวบ้าน ที่ให้เจ้าอาวาสยืมเงิน ได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับพระเลขาฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูลความเสียหาย โดยทำบัญชีระบุ รายชื่อ ที่อยู่ และจำนวนเงินที่ได้ให้กู้ยืม พร้อมพยานหลักฐานการกู้ยืม (ถ้ามี) โดยจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง ในวันที่ 30 พ.ย.66 เวลา ณ วัดบางปลาหมอ โดยจะเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบ และดูแลด้านกฎหมาย มาร่วมพูดคุยให้คำแนะนำชาวบ้าน ถ้าจะดำเนินคดีต้องทำอย่างไร เตรียมหลักฐานอะไรบ้าง
ด้านนางกานดา เล่าว่า เจ้าอาวาสวัดยืมเงินตนไป 30,000 บาท จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด ทำศาลากรเปรียญ และบอกว่าจะคืนเงินให้หลังทอดกฐิน และเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ตนได้ทวงถาม จึงได้เงินคืนมา 6,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่อ่านไลน์ ปิดเฟซบุ๊ก ติดต่อไม่ได้อีกเลย ส่วนที่ให้ยืมเงิน เพราะเห็นว่าเป็นพระที่พัฒนาวัด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย และเคยให้ยืมเงินไปครั้งหนึ่ง ก็นำมาคืน เลยคิดว่าครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา และเป็นเจ้าอาวาส และเป็นถึงเจ้าคณะตำบล
พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการวัด และชาวบ้านที่เจ้าอาวาสยืมเงิน และชุดสืบสวนได้เร่งติดตามเจ้าอาวาส เพื่อมาให้ปากคำข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายคดีอาญาหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นพบเบาะแสของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว เดินทางไปขึ้นรถตู้โดยสาร ที่ บขส.เมืองสุพรรณบุรี ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ในเวลาประมาณ 13.30 น. ปลายทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
