แก๊งมิจฉาชีพเช่ารถไปร่วมงานกฐิน สุดท้ายเชิดหนีหาย เจ้าของเต็นท์ติดต่อหา กลับขู่ให้นำเงินมาไถ่คืน ถ้าไม่ได้เงินจะส่งรถข้ามโขง อึ้ง! พบเจ้าของรถกว่า 30 คนตกเป็นเหยื่อ
วันนี้ (21 พ.ย.66) น.ส.นิศารัตน์ อายุ 29 ปี เจ้าของธุรกิจเต็นท์เช่าแห่งหนึ่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกเช่ารถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 9713 กาฬสินธุ์ อ้างว่าเช่ารถเพื่อขับไปร่วมงานกฐิน แต่สุดท้ายเชิดรถหนีหายไป
น.ส.นิศารัตน์ ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา มีชายวัยกลางคน ถือบัตรประชาชนระบุชื่อ นายทรงศักดิ์ ชาวจังหวัดสกลนคร ได้มาเช่ารถกระบะกับตน อ่างว่าจะนำไปร่วมงานบุญกฐิน โดยมีนัดคืนรถในช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ย. แต่ถึงเวลานัดหมาย กลับไม่นำรถมาส่งคืน ตามที่ตกลงกันไว้ จึงโทรศัพท์หาผู้เช่ารถแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ไลน์หา แต่ไม่มีการตอบกลับมา จึงเริ่มเอะใจ จึงค้นหาชื่อ นามสกุล ผู้เช่ารถ ปรากฏว่านายทรงศักดิ์ และแฟนสาว ได้ตะเวนเช่ารถทั่วภาคอีสานแล้วเชิดรถหนี โดยมีผู้เสียหายประมาณ 20 -30 คน มีรถกระบะที่ถูกหลอกเช่า และเชิดหนีหลายคัน
ซึ่งตนมีหลักฐานการเช่ารถ มีการเซ็นเอกสารไว้เป็นหลักฐานทุกอย่าง จึงได้ประกาศเตือนภัยในโซเชียลถึงบุคคลอันตราย จากนั้นได้เดินทางไปที่ภูมิลำเนาบ้านผู้ก่อเหตุ จนไปพบผู้ใหญ่บ้าน ได้ข้อมูลว่ามีคนมาตามนายทรงศักดิ์ ซึ่งบ้านผู้ก่อเหตุมีแต่พี่ชายอาศัยอยู่ จึงได้เดินทางไปที่บ้านแฟนของนายทรงศักดิ์ พบแต่แม่ฝ่ายหญิง ซึ่งก็ยอมรับว่าลูกสาวเป็นผู้ร่วมขบวนการแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวจริง
แต่ปรากฏว่าระหว่างเดินทางกลับมาที่กาฬสินธุ์ มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรมาให้นำเงิน 60,000 บาท มาไถ่รถคืน ไม่เช่นนั้นจะนำรถไปจำนำที่อื่น และให้ไปรับที่ จ.อุดรธานี ตนจึงได้โทรปรึกษาตำรวจ พบว่าแก๊งมิจฉาชีพทำเป็นขบวนการ จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามนำตัวผู้ก่อเหตุทั้งแก๊งมาดำเนินคดี ตอนนี้อยากได้รถคืน และอยากจะฝากถึงผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเช่ารถ ให้ตรวจสอบประวัติของผู้เช่าอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เดียวกับตน
ขณะที่ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกันหา รอง.ผกก.สอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้ง ทางตำรวจจะเร่งรัดคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะผู้ก่อเหตุมีการเช่า และมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ มาหลายท้องที่ และจะเร่งรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และออกติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
