เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารหอประชุมหลังใหม่ มูลค่ากว่า 110 ล้านบาท ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังเสียหายเกือบทั้งหลัง ระดมรถน้ำดับเพลิงกว่า 30 คันระงับเหตุ โชคดีไมมีใครได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (29 พ.ย.66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมาศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรหัวหิน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารหอประชุม ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือดับเพลิงเทศบาลเมืองหัวหิน นำรถดับเพลิง รถหอน้ำ เร่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยังหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งภาครัฐ และเอกชน กว่า 30 คัน เร่งระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารหอประชุมขนาดใหญ่ สูง 2 ชั้น มีอาคารห้องประชุมหลังเหล็กอยู่โดยรอบ เปลวเพลิงได้ลุกลามจากบริเวณชั้นสอง ซึ่งมีพรมซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกายไฟได้โหมลุกลามขึ้นไปไหม้หลังคาอย่างรวดเร็ว ทำให้ชั่วเวลาไม่กี่นาทีเกิดประกายไฟ และควันสีดำเป็นวงกว้าง เพลิงได้ลุกลามไหม้หลังคาด้านบนทั้งหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ต่อมานายพลกฤติ พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน ,พันตำรวจเอกหงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารหอประชุมหลังนี้มีห้องประชุมขนาดใหญ่ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 อาคารประกอบภายนอกเป็นห้องประชุมเล็ก ไม่มีห้องเรียน ใช้สำหรับทำกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย โดยเช้าวันนี้ ได้นิมนตร์พระมาทำบุญ ที่ห้องประชุมชั้น 2 หลังทำบุญเสร็จได้เก็บของ และปิดห้องประชุมตามปกติ กระทั่งแม่บ้านประจำอาคารได้ยินเสียงระเบิดตูมใหญ่ภายในห้องประชุม จึงพากันเข้าไปดู พบว่าที่บริเวณด้านหน้าเวทีเพลิงลุกไหม้ควันฟุ้งกระจายทั่วห้อง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกับดับเพลิง พร้อมแจ้งเหตุ แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง แม่บ้านจึงต้องรีบหนีออกนอกตัวอาคารเพื่อเอาชีวิตรอด
สำหรับอาคารหลังนี้มีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 110 ล้านบาท ภายหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจได้ทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณชั้น 2 จนถึงหลังคา ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ทั้งนี้ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบหาหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
