DSI จับผัวเมียแสบ ตุ๋นคอหวยสมัครสมาชิกให้เลขล็อก ผู้เสียหายกว่า 3,000 คน สำนักงานสลากฯ สูญรายได้หลายสิบล้านบาท
วันนี้ (29 พ.ย.66) นายสมฤกษ์ ตั้งคารวคุณ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.บก.ทท.) และกองบังคับการควบคุมผาทมิฬ หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก โดยกองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งในจ.เชียงราย พร้อมจับกุมนายฉัตรมงคล และน.ส.มณีรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2643-2644/2566 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2566 ในคดีความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับการประสานจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า มีผู้จัดทำเอกสารปลอมและโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดีย ใช้ชื่อและใช้ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อแอบอ้างให้ประชาชนหลงเชื่อว่าหากสมัครสมาชิกจะได้รับเลขล็อกจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและถูกรางวัล 100 เปอร์เซ็นต์ หากไม่ถูกยินดีคืนเงิน โดยมีค่าสมัครสมาชิกตั้งแต่ 600 – 1,200 บาทต่อครั้ง แม้เงินที่หลอกลวงแต่ละครั้งจะไม่สูงมาก แต่มีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 3,000 คน มูลค่าความเสียหายสูงหลายสิบล้านบาท
อธิบดีดีเอสไอ จึงอนุมัติให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบแน่ชัดว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าวคือ นายฉัตรมงคล และน.ส.มณีรัตน์ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน จึงของศาลอนุมัติหมายจับและหมายค้น โดยผลการตรวจค้นบ้านพักพบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด อาทิ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นต้น
เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การว่า ได้เรียนรู้วิธีการกระทำผิดจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ จึงเชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายกลุ่ม ซึ่งดีเอสไอจะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อปราบปรามการกระทำความผิดต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาสำคัญหลายราย อาทิ นายวาทิน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลกองดิน จ.ระยอง ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 62/2562 ที่แอบอ้างเป็นผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหลอกให้ประชาชนโอนเงินซื้อเลขล็อก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และนายจาตุรงค์ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 3/2564 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท และตรวจค้นบ้านพักของนายจาตุรงค์ พบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมาก ทั้งบ้านและที่ดิน รถยนต์หรู เงินสด สิ่งของแบรนด์เนมและทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท โดยปัจจุบันทั้งสองคดี ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดจำคุกผู้ต้องหาทั้งสอง รวม 20 ปี
ดีเอสไอขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อการโฆษณาหลอกลวงประเภทนี้ และหากประชาชนต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับคดี สามารถติดต่อผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
