สารวัตรกำนัน ดวลปืน เจ้าของซุ้มไก่ชน จ.กระบี่

View icon 659
วันที่ 30 พ.ย. 2566 | 16.24 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สารวัตรกำนัน-เจ้าของซุ้มไก่ชน มีปัญหากันเรื่องชนไก่ชน โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายทำให้ไก่ขาหัก สุดท้ายจบด้วยการดวลปืนกัน เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ รับแจ้งโรงพยาบาลว่ามีคนโดนยิงได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ถูกส่งมารักษาตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบที่หน้าห้องฉุกเฉิน มีญาติคนเจ็บจำนวนมาก ยืนรอกันอยู่หน้าห้อง

จากการตรวจสอบพบคนเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย นายพาณิชย์ ธรรมนพรัตน์ อายุ 55 ปี เจ้าของค่ายไก่ชนโชคน้องภูมิ ตำบลอ่าวลึกใต้ โดนยิงเข้าบริเวณช่องท้อง 4 นัด แขนซ้าย 1 นัด (เสียชีวิต)

นายสมโชค ชนะสัตย์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/2 หมู่ 2 ตำบลอ่าวลึกเหนือ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด อาการสาหัส (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล)

นายพฤฒอนนท์ คำพุทธ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 7 ตำบลอ่าวลึกใต้ มีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ต.อ่าวลึกใต้ โดนยิงเข้ากลางอก 1 นัด สีข้างขวา 1 นัด อาการสาหัส ถูกส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่

นางสาวกชกร แซ่หลิว อายุ 31 ปี ภรรยานายพฤฒอนนท์ กระสุนเฉี่ยวที่ต้นขาซ้าย

และนายศตวรรษ วิชัย อายุ 32 ปี คนงานของนายพฤฒอนนท์ กระสุนเฉี่ยวน่องซ้าย ปฐมพยาบาล และอนุญาตให้กลับบ้านได้

นางสาวกชกร ภรรยานายพฤฒอนนท์ (สารวัตรกำนัน) ให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ บ้านตนเองอยู่ติดกับซุ้มไก่ชนของ นายพาณิชย์ (ผู้ตาย) เมื่อคืนนี้สามีขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง บรรทุกลำโพงเครื่องเสียงกลับมาจากงานเลี้ยงในตัวอำเภอ พอมาถึงบ้านถูก นายทินภัทร ซึ่งเป็นลูกชายนายพาณิชย์ (ผู้ตาย) เดินมาถามสามีตนเรื่องไก่ชนของเขาที่ขาหัก โดยกล่าวหาว่าสามีตนเป็นคนทำให้ไก่ตัวดังกล่าวบาดเจ็บ ก่อนจะมีปากเสียงกัน นายทินภัทร จึงโทรศัพท์ไปหา นายพาณิชย์ ที่อยู่บ้านอีกหลังให้เข้ามา พอ นายพาณิชย์ มาที่เกิดเหตุ พร้อมกับ นายสมโชค ก่อนจะลงมาพูดคุยกัน โดยมีตนและ นายศตวรรษ คนงานของสามีอยู่ด้วย

จากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอีก นายสมโชค และนายพาณิชย์ จึงเข้ามารุมชกทำร้ายสามีตนก่อน ระหว่างเหตุการณ์ชุลมุน ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนยิงก่อน แต่เห็นสามีชักปืนยิงสวนไป ตนจึงรีบวิ่งไปลากตัวสามีกลับเข้าบ้าน และเห็นว่าสามีโดนยิง จึงโทรศัพท์แจ้งให้กู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนอีกฝ่ายก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ พบบ้านของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ติดกัน บ้านของ นายพาณิชย์ (ผู้ตาย) เปิดเป็นซุ้มไก่ชน ส่วนบ้านของ นายพฤฒอนนท์ คำพุทธ (เจ็บสาหัส) สารวัตรกำนัน เปิดเป็นโรงงานผลิตน้ำดื่ม บนถนนหน้าบ้านมีรอยเลือดกระจายอยู่หลายจุด บนพื้นถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก, ปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก ข้างทางพบปืนสั้นขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ทราบว่า เป็นปืนของ นายพฤฒอนนท์

ส่วนอีกฝั่งของถนน พบปืนสั้นลูกโม่ขนาด .38 ของนายพาณิชย์ ตกอยู่ 1 กระบอก ในรังเพลิงมีปลอกกระสุน 4 นัด กระสุนยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ตำรวจชุดสืบสวน ได้ข้อมูลว่า ปัญหาเรื่องไก่ชนอาจไม่ใช่ชนวนเหตุแท้จริง เพราะทราบว่าทั้ง 2 ฝ่าย เคยขัดแย้งกันเรื่องการเมืองท้องถิ่น โดย นายพฤฒอนนท์ เคยลงสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนนายพาณิชย์ ก็เคยให้การสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม จนนายพฤฒอนนท์ แพ้การเลือกตั้ง ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มไม่ลงรอยกันมาก่อนแล้ว จนมาเกิดความเข้าใจผิดเรื่องไก่ชนของลูกชายนายพาณิชย์ ขาหัก และเข้าใจว่าฝ่ายนายพฤฒอนนท์ เป็นคนทำ จนเกิดมีปัญหาดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะเชิญตัวทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบปากคำ รวมทั้งรอดูอาการของคนเจ็บที่เหลืออีกครั้ง ก่อนจะดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าค้นหาอาวุธปืนลูกซองยาวที่บ้านของ นายพฤฒอนนท์ เนื่องจากชุดสืบได้ภาพกล้องวงจรปิดเป็นจังหวะหลังเกิดเหตุ แล้ว นายศตวรรษ วิชัย อายุ 32 ปี ลูกน้องของนายพฤฒอนนท์ วิ่งเข้าไปเอาปืนลูกซองในบ้านออกไปยิง เพื่อดูว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุด้วยหรือไม่

ในคลิปกล้องวงจรปิดน่าจะเป็นช่วงที่ นายพฤฒอนนท์ เจ้าของซุ้มไก่โดนยิงได้รับบาดเจ็บแล้ว ได้วิ่งหนีเข้ามาในบริเวณบ้าน จากนั้น นายศตวรรษ จึงเอาปืนลูกซองออกไปยิงขู่ไม่ให้อีกฝ่ายตามมายิงซ้ำ

โดยค้นในห้องนอนยังพบอาวุธปืนยาวอีก 2 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืน 9 มม.อีกจำนวนหนึ่ง และพบปืนลูกซองยาว 5 นัด ยังมีคราบเลือดติดอยู่ที่ปืน และปลอกกระสุนปืนลูกซองอีก 1 ปลอก จึงยึดไปตรวจสอบอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง