ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สุภาษิตไทย รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี สงสัยจะใช้กับยุคสมัยนี้ไม่ได้แล้ว เพราะบ้างครั้งอาจตีแรงเกินไป อย่างเช่นเรื่องนี้ มีแม่ขอเด็กชายชั้น ป.5 มาร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด ลูกถูกครูประจำชั้นตี 70 ครั้ง เหตุเพราะทำการบ้านไม่เสร็จ ตีจนก้นช้ำหลายจุดเลย ตอนนี้เด็กถึงกับนอนผวา ไม่กล้าไปโรงเรียนเลย
เมื่อเช้านี้ ผู้ปกครองของ เด็กชายเอ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรีมย์ เข้าร้องขอความช่วยเหลือ กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด
ผู้ปกครองของน้อง ป.5 อายุ 37 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แม่ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า น้องชาย ถูกครูวิชาภาษาไทยทำโทษตี 70 ที จนเกิดเป็นรอยช้ำบริเวณบั้นท้าย เนื่องจากทำการบ้านไม่ครบตามที่ครูสั่ง 107 หน้า น้องชายทำได้ 37 หน้า เหลืออีก 70 หน้า เลยถูกตีหน้าละ 1 ที หลังถูกทำโทษน้องชายมีอาการไขขึ้นสูง นอนผวา และบอกว่าไม่อยากกลับไปเรียนที่โรงเรียนนี้อีกแล้ว ต่อมาแม่ยังบอกอีกว่า คุณครูได้พาน้องชายไปคลินิกแห่งหนึ่ง และบังคับให้น้องชายบอกกับหมอว่าหกล้มเอง ซึ่งการกระทำนี้ ตนคิดว่าเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้
วันนี้จึงอยากเดินทางเข้าร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพราะต้องการให้คุณครูรายดังกล่าวออกมารับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง และกลัวว่าหลังจากนี้น้องชายจะไม่ได้เข้าโรงเรียน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงกลางเทอมพอดี
พี่สาว ยังเล่าอีกว่า ทางโรงเรียนได้ติดต่อหาฝั่งผู้ปกครอง เพื่อขอเจรจาไกล่เกลี้ย โดย คุณครูวิชาภาษาไทย ได้ให้เหตุผลกับผู้ปกครองว่า ครูได้ให้การบ้านเด็กนักเรียน ทำล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนปิดภาคเรียน ประมาณวันที่ 4 กันยายน 2566 โดยกำหนดส่งวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เพราะ เพราะภาคเรียนที่ 2 กิจกรรมเรามีเยอะ กลัวจะสอนไม่ทัน และนักเรียนสามารถค้นคว้าคำตอบได้ในอินเทอร์เน็ต อย่างน้อยเพื่อลดการเล่นเกมส์ของเด็กไปบ้าง เด็กจะได้มีโอกาส ค้นคว้าเนื้อหาที่จะเรียนวันละนิดก็ยังดี
แต่พอเปิดเรียนก็มีนักเรียนบางคนที่ทำเสร็จ แต่มีส่วนน้อยที่ทำเสร็จ ครูและนักเรียนจึงทำข้อตกลงกัน เรื่องการทำโทษ ก็ได้มติว่าใครทำไม่เสร็จ จะถูกตีหน้าละ 1 ครั้ง แล้วครูก็ผ่อนผันผลัดมาเรื่อย ๆ แล้วครูก็เตือนตลอด และคอยบอกว่าไม่รู้และไม่เข้าใจหน้าไหนให้มาถาม จนมีการลงโทษในวันนี้ แต่ละคนก็โดนลบโทษไม่เท่ากัน แล้วแต่ควารับผิดชอบของแต่ละคน
ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า น้องชั้น ป.5 ถูกคุณครูภาษาไทยโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งให้ทำการบ้านในช่วงปิดเทอมทั้งหมด 107 หน้า ซึ่งต้องทำให้เสร็จก่อนเปิดเทอม น้องทำไปได้ 37 หน้า เหลืออีก 70 หน้า แต่น้องทำไม่เป็นประกอบกับที่คุณแม่ไม่รู้หนังสือ น้องและคุณแม่จึงรอให้น้องมาถึงโรงเรียน เพื่อที่จะให้คุณครูสอน พอเปิดเทอมคุณครูได้ขยายเวลาให้อีก 5 วัน หากทำไม่เสร็จจะถูกทำโทษ แต่น้องก็ยืนยันไปว่า น้องก็ทำไม่เป็น สุดท้ายจึงถูกทำโทษ
ซึ่งตนเองมองว่าการใช้ความรุนแรงกับเด็กคือการทำร้ายร่างกาย และคุณครูต้องถามตัวเองว่า ทำไมน้องถึงทำการบ้านไม่ได้ ให้คุณครูมองตัวว่าอยู่ที่คุณครูด้วยหรือเปล่า ที่น้องทำไม่ได้
เบื้องต้นตนเอง ประสานที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงประสานทางท่าน ผู้กำกับในพื้นที่บุรีรัมย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและดำเนินคดีกับคุณครูคนดังกล่าว
ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหา ผู้อำนวยการ โรงเรียนดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทางโรงเรียนยังไม่พร้อมออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าขอปรึกษากับทางต้นสังกัดก่อน แต่ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุ ทางโรงเรียนได้ติดต่อหาฝั่งผู้ปกครองตลอด และได้มีการตั้งกรรมการสอบวินัยคุณครูรายดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นคุณครูให้การยอมรับว่า ได้ทำโทษเด็กจริง ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่คิดทำร้ายแต่อย่างใด ทุกอย่างมาจากอยากให้เด็กได้ดี
ล่าสุด ทีมงานเพจสายไหมต้องรอดได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สน.สายไหม เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกับสหวิชาชีพ จะร่วมกันสอบปากคำเด็ก จากนั้นก็จะส่งสำนวนไปยัง สภ. ต้นเรื่องในจังหวัดบุรีรัมย์