สลดวงการผ้าเหลือง พระ 2 รูป ชวนกันดวลเหล้าขาวและทำคั่วกลิ้งหนูกิน พอเมาได้ที่มีปากเสียงกันเรื่องใครใหญ่กว่ากัน สุดท้ายชักมีดแทงอีกฝ่ายมรณภาพ
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม 66 พ.ต.ท.พงษศภัค คนบำรุง สว.(สอบสวน) สภ.ปากชม ได้รับแจ้งมีเหตุพระลูกวัดบ้านห้วยเทียน หมู่ 4 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย ทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีดแทงกันมรณภาพหน้ากุฎิเจ้าอาวาส จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่าที่แคร่ไม้หน้ากุฎิเจ้าอาวาสมีกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ พระประยุทธ์ อายุ 56 ปี ถูกอาวุธมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ชายโครงขวา ลำคอ หน้าอก และหัวไหล่ รวม 4 แผล ชาวบ้านนำส่ง รพ.ปากชมไปล่วงหน้า แต่มรณภาพในเวลาต่อมา
ส่วน ผู้ก่อเหตุ พระคมสรรค์ อายุ 59 ปี หลังก่อเหตุขับรถเก๋งหนีไปที่วัดศรีพิชัยมงคล บ้านโนนสว่าง หมู่ 9 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่วัด พบพระคมสรรค์ อยู่ภายในกุฎิวัดสภาพยังเมาอยู่ โดยรับสารภาพว่าเป็นคนแทงพระประยุทธ์ จึงนำตัวมาชี้ที่เกิดเหตุ นำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ปากชม โดยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
สอบถาม พระทอง ที่มีกุฎิติดกับที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ ตนเองอยู่ภายในกุฎิได้ยินเสียงทะเลาะกันก็ไม่สนใจ เพราะพระทั้ง 2 รูป เป็นเพื่อนกันและกินเหล้าทะเลาะกันเป็นประจำ จนเสียงดังขึ้นและมีเสียงร้องจึงออกมาดู พบว่าพระประยุทธ์โดนพระคมสรรค์แทง นอนที่แคร่ไม้หน้ากุฎิเจ้าอาวาส จากนั้นก็รีบเข้าช่วยและแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยนำส่ง รพ.ปากชม โดยพระประยุทธ์ไม่ได้จำพรรษาที่วัด เป็นพระที่ไม่มีวัดเป็นหลักแหล่งเวียนไปมา ส่วนพระคมสรรค์จำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.พิชัย อ.ปากชม ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กม.
ขณะที่ พระครูบุญเมือง รักษาการเจ้าอาวาส เล่าว่า วันก่อนเกิดเหตุได้ชวนพระประยุทธ์ ไปเยี่ยมโยมแม่ที่ จ.มหาสารคาม ด้วยกัน ขากลับญาติโยมฝากหนูนาตัวใหญ่มาให้ 2 ตัว เมื่อมาถึงวัด พระประยุทธ์โทรไปชวนพระคมสรรค์ให้มาทำคั่วกลิ้งหนูกินกับเหล้าขาว ตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน หมดเหล้าขาวไป 2 ขวด จนบ่ายไปซื้อมาอีก 2 ขวด รวมเป็น 4 ขวด จนถึงเวลา 3 ทุ่มกว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกัน จึงออกมาดู พบพระทั้งสองอยู่ในอาการที่เมา พระคมสรรค์ขอกลับวัดที่ ต.พิชัย อ.ปากชม ก่อน แต่พระประยุทธ์ไม่ยอมให้กลับ จนมีปากเสียงกันเรื่องใครใหญ่กว่ากัน จากนั้นพระคมสรรค์เดินไปคว้ามีดที่อยู่ในรถแทงพระประยุทธ์
