ผอ.สาวควบเก๋งจะกลับบ้าน เกิดเฉี่ยวชนจนเกิดไฟลุกไหม้ห้องเครื่อง ก่อนลุกลามไหม้เสียหายทั้งคัน โชคดีเจ้าตัวหนีออกมาจากรถได้
วันนี้ (3 ธ.ค.66) กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเกิดเหตุรถเก๋งไฟไหม้ บริเวณทางเข้าบ้านยางเทิง ถนนอุบล-ตระการ ขาออก ก่อนถึงองค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อย 200 เมตร จึงประสานนักดับเพลิง องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์เก๋ง สีบรอนซ์เทา พบพลเมืองดี และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อย นำถังดับเพลิงเข้าดับระงับเหตุ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากมีน้ำมันรั่วออกมาจากตัวรถอย่างต่อเนื่อง จึงเร่งประสานรถดับเพลิงโฟมจากเทศบาลนครอุบลราชธานี เข้าสนับสนุนประมาณ 5 นาทีเพลิงจึงสงบ
สอบถามนางอรอนงค์ อายุ 45 ปี คนขับรถ ที่อยู่ในอาการตกใจร้องไห้ พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า รถเป็นอะไร รถพังหมดเลยเหรอ ชาวบ้านและทีมกู้ภัย ต้องพยายามปลอบนานกว่า 30 นาที จึงจับใจความได้ว่า ตนเองเป็น ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ เทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เพิ่งขับรถออมาจากบ้านเพื่อนที่บ้านนาดูน ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง กำลังจะกลับบ้าน ที่ตำบลเหล่าเสือโก๊ก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุภาพตัดไป รู้ตัวอีกครั้งพบว่ารถมีควันไฟออกมาจากห้องเครื่อง จึงรีบออกมาจากรถ ไม่นานไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้รถเสียหายทั้งคัน
ด้านนายณัฐพล อายุ 28 ปี พลเมืองดีเผยว่า ขี่จักรยานยนต์ผ่านที่เกิดเหตุเห็นไฟกำลังเริ่มลุกไหม้ จึงได้รีบไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ อบต.ไร่น้อย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 200 เมตร แต่เนื่องจากรถดับเพลิงของทาง อบต.ไร่น้อยอยู่ระหว่างซ่อม จึงได้เพียงถังดับเพลิงมาระงับเหตุ แต่ไม่เพียงพอจึงโทรแจ้ง 191 เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วย ขณะนั้นพบรถแวน จำรุ่น ยี่ห้อ ไม่ได้จำได้สภาพเก่า ซึ่งคนขับเล่าให้ฟังว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขันรถมาดี ๆ ได้ยินแต่เสียงกระแทกท้ายรถจึงได้จอดดู พบว่าไฟท้ายแตก เบื้องต้นในที่เกิดเหตุไม่พบคู่กรณี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทางญาติจึงของนำนางอรอนงค์ ไปตรวจร่างกายก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาคู่กรณีและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
