เช้าข่าว 7 สี - มีชายคนหนึ่งไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังภรรยาถูกเจ้าหนี้อุ้มไปทำร้ายร่างกาย พร้อมกับขู่ว่าถ้าจ่ายเงินที่กู้ไปไม่ครบ ภรรยาจะถูกส่งไปขายที่อื่น แต่สุดท้ายโอละพ่อ คดีพลิก ภรรยาสารภาพ กุเรื่องขึ้นมา
ไล่เรียงแบบนี้ก่อน ผู้เป็นสามี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนแต่งงานอยู่กินภรรยาคนนี้มานานกว่า 10 ปี เมื่อก่อนไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน แต่พักหลัง ๆ เริ่มหมุนเงินไม่ทัน จึงไปกู้ยืมจากเจ้าหนี้นอกระบบ เป็นเงิน 150,000 บาท โดยมีการทยอยชดใช้ไปบ้างแล้ว แต่ยังเหลือยอดที่ติดค้างอีก 90,000 บาท ซึ่งภรรยาของตนไม่มีเงินให้แล้ว จึงได้ต่อรองเจ้าหนี้ และได้ข้อสรุปว่า จะแบ่งจ่ายให้ครบภายใน 4 งวด หากผิดนัดก็จะมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่ม โดยงวดแรกคือวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ 37,000 บาท รวมดอกเบี้ย แต่ตนจ่ายให้ไม่ครบ และขอเลื่อนที่เหลือไปรวมกับงวดถัดไป
ต่อมาในวันเดียวกันนั้น ตนได้ไปส่งภรรยาที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ตามความต้องการของภรรยา เพราะโดยปกติจะไปส่งที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นที่ทำงานของภรรยา จนกระทั่งช่วงเกือบเที่ยง ภรรยาไลน์มาหาว่าเข้าที่ทำงานไม่ได้ เพราะมีกลุ่มชายประมาณ 7-8 คน ยืนดักรอที่หน้าทางเข้าทำงาน จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป จนแฟนได้ติดต่อผ่านไลน์ และบอกว่าถูกเจ้าหนี้อุ้มไป และถูกทำร้ายร่างกายให้หาเงินมาคืนให้ครบ ไม่งั้นจะถูกส่งไปขายที่อื่น ตอนแรกตนยังไม่ปักใจเชื่อ กระทั่งภรรยาวิดีโอคอลไปหาญาติด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด และบอกว่าให้ช่วยหาเงินมาใช้คืน ไม่งั้นจะถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาแจ้งความตนหาเงินได้ 10,000 บาท และโอนเข้าบัญชีภรรยาไปแล้ว เพราะคนร้ายจะให้ใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของภรรยา โดยการพูดคุยทั้งหมดผ่านไลน์จะถูกควบคุม และตรวจสอบโดยคนร้าย
แต่สุดท้าย อย่างที่เราบอกไว้ข้างต้น คดีพลิก เมื่อตำรวจฝ่ายสืบสวน สน. ห้วยขวาง ได้ไปยังสถานที่ที่ภรรยาของผู้เสียหายทำงานอยู่ เพื่อจะหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่สุดท้ายกลับพบว่า ภรรยาของผู้เสียหาย ไม่ได้ถูกกักขัง หรือถูกทำร้ายร่างกาย ยังทำงานตามปกติ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า สร้างเรื่องทุกอย่างขึ้นมา เนื่องจากติดพนันออนไลน์อย่างหนักเล่นเสียนับแสนบาท จึงได้ไปกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย สุดท้ายไม่มีเงินไปคืนเจ้าหนี้ จึงได้ออกอุบายว่าถูกมาเฟียเงินกู้อุ้มไปทำร้าย เพื่อให้แฟนหนุ่มไปหาเงินมาใช้หนี้ให้ตน และเธอเคยกุเรื่องว่าถูกอุ้มแบบนี้มาแล้ว 3 - 4 ครั้ง ทุกครั้งแฟนหนุ่มก็จะรีบไปหาเงินมาชดใช้ให้ จึงคิดว่าครั้งนี้จะเป็นทุกครั้งโดยไม่คิดว่าสามีจะติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดแต่อย่างใด เนื่องจากตนเองได้สั่งกำชับไว้แล้วว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นหรือไปขอความช่วยเหลือจากใครเด็ดขาด จากนี้ตำรวจจึงเตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวต่อไป
