หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานค้นหา และกู้ภัยปาดังของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน หลังภูเขาไฟมาราปี บนเกาะสุมาตรา ปะทุหนักเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดยังมีผู้สูญหายอีก 10 คน ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งค้นหา ท่ามกลางอุปสรรค ทั้งจากสภาพอากาศเลวร้าย และการปะทุที่รุนแรงขึ้น การค้นหาจะดำเนินต่อไปเป็นเวลา 7 วัน
โดยวานนี้ เจ้าหน้าที่พบร่างนักปีนเขาเสียชีวิตใกล้กับปากปล่องภูเขาไฟมาราปี 5 คน และได้นำร่างลงมาจากเขาแล้ว 5 คน และยังพบผู้รอดชีวิตอีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
ขณะที่หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังของภูเขาไฟมาราปี เผยว่า ตั้งแต่ช่วง 12.00 น. จนถึงเช้าวันนี้ ภูเขาไฟมาราปี เกิดการปะทุอย่างน้อย 5 ครั้ง
ขณะนี้ มีการเตือนภัยภูเขาไฟระดับที่ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ ซึ่งกำหนดให้อยู่ห่างรัศมีรอบปากปล่องภูเขาไฟ ในระยะห่าง 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ขณะเกิดภูเขาไฟปะทุหนัก
เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานนักปีนเขาเดินป่าขึ้นไปบนภูเขาทั้งหมด 75 คน ตั้งแต่วันเสาร์ และเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 49 คน จากไฟไหม้ และกระดูกหัก ภูเขาไฟมาราปี นับเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดบนเกาะสุมาตรา
ขณะที่อินโดนีเซีย ประสบเหตุแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุบ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บน "วงแหวนแห่งไฟ" ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกชนกัน โดยอินโดนีเซีย มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เกือบ 130 ลูก
