กองทัพอิสราเอล เดินหน้าบุกเข้าไปยังพื้นที่ใจกลางเมืองข่านยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยเปิดเผยว่าเป็นการปะทะกันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นการสู้รบภาคพื้นดิน ขณะที่ ตำรวจอิสราเอล เปิดการสืบสวนกรณีอาชญากรรมทางเพศต่อตัวประกันแล้ว กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า กองกำลังอิสราเอล ซึ่งมีเครื่องบินรบเป็นกำลังสนับสนุน ได้เดินทัพเข้าถึงพื้นที่ใจกลางเมืองข่านยูนิส (Khan Younis) เมืองหลักทางตอนใต้ของฉนวนกาซา รวมทั้งเมืองที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบแล้ว หลังมีการทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดย อิสราเอล ระบุว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ เป็นการสู้รบครั้งดุเดือดที่สุด นับตั้งแต่เริ่มต้นการโจมตีภาคพื้นดิน เมื่อราว 5 สัปดาห์ก่อน ขณะที่ กลุ่มฮามาส (Hamas) ยืนยันว่า นักรบของตนได้ปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังของอิสราเอล
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการสู้รบกันที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ใกล้กับเมืองกาซาซิตี ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา โดยกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า นับตั้งแต่การสู้รบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16,248 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 7,000 คน
ด้านชาวปาเลสไตน์เปิดเผยว่า ขณะนี้พวกเขาไม่มีที่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว โดยอิสราเอลยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดโจมตีพื้นที่ที่พวกเขาได้รับแจ้งให้อพยพไปยังจุดดังกล่าว
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลกำลังเร่งสืบสวนข้อกล่าวหากรณีอาชญากรรมทางเพศต่อผู้หญิง โดย กลุ่มฮามาส ซึ่งกระทรวงยุติธรรมของอิสราเอลระบุว่า เหยื่อถูกทรมาณ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน เผาทั้งเป็น และถูกตัดอวัยวะ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวในงานระดมทุนทางการเมือง โดยอ้างข้อมูลจากเหยื่อและพยานว่า กลุ่มฮามาสได้ข่มขืนผู้หญิง และทำลายร่างของเหยื่อ ในระหว่างการโจมตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ขณะที่ กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ประณามข้อกล่าวหาของผู้นำสหรัฐฯ และระบุว่า นายไบเดนเข้าร่วมความพยายามของอิสราเอลในการปิดบังอาชญากรรมสงครามที่กระทำในฉนวนกาซาที่มีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน
