ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม้ กระทรวงพลังงาน จะออกมาเผยว่าอาจปรับลดค่าไฟฟ้างวดหน้าลงได้เล็กน้อย จากที่จะเรียกเก็บหน่วยละ 4 บาท 68 สตางค์ อาจจะเหลือแค่หน่วยละ 4 บาท 20 สตางค์ อย่างไรให้รอลุ้นปลายสัปดาห์นี้ แต่เอกชนก็ยังมองว่าตัวเลขยังสูงเกินไป วันนี้มีการระดมความคิดเห็นครั้งใหญ่เพื่อหาทางออกเรื่องนี้
เอกชน 3 สถาบันประชุมด่วน หาทางออกค่าไฟฟ้า
วันนี้ ภาคเอกชน 3 สถาบันประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย หรือ กกร. ได้นัดหารือวาระเร่งด่วน เพื่อร่วมกันหาทางออก หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้า งวดหน้า จากหน่วยละ 3 บาท 99 สตางค์ เป็นหน่วยละ 4 บาท 68 สตางค์ แม้ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงาน จะออกมาเปรยว่า ค่าไฟฟ้างวดหน้าอาจลดได้อีก 48 สตางค์ แต่ภาคเอกชนก็อยากได้ราคาเดิม คือ หน่วยละ 3 บาท 99 สตางค์ เพื่อรักษาระดับต้นทุนเดิมไว้ โดยเห็นว่ารัฐบาลต้องรีบหาทางออก เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากจนเกินไป
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่กำลังซื้อของไทยอ่อนแอมาก เพราะภาระหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นทั้งค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมัน รวมทั้งก๊าซหุงต้ม
ราคาทองคำ 6 ธันวาคม 2566
ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ ร่วงลงบาทละ 200 บาท หลังจากที่ทำนิวไฮไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยราคาเปิดตลาดเช้านี้ ทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 33,700 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 34,200 บาท
เปิดตลาด ราคาทองคำลด-หุ้นร่วง
ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดเช้านี้ ดัชนีอยู่ที่ 1,381.51 จุด ปรับตัวลง 2.03 จุด นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินสัญญาณโดยรวมยังดูอ่อนแรง ทำให้มองการฟื้นตัวยังถูกจำกัด
กองทุนน้ำมัน ติดลบ 78,416 ล้านบาท
ส่วนราคาน้ำมันโลก เริ่มขยับลดลงเล็กน้อย รอเย็นนี้ หรือพรุ่งนี้ อาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาขายปลีก แจ้งกันอีกครั้งคร่าวๆ ทุกๆ การปรับลดลงของน้ำมันโลก ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกในประเทศจะเปลี่ยนแปลงราว ๆ 20 สตางค์ต่อลิตร ที่น่าสนใจกว่าคือสถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดติดลบสูงขึ้นเป็น 78,416 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมันติดลบ 32,482 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,934 ล้านบาทแล้ว และมาตรการชดเชยราคาหลายรายการก็จะสิ้นสุดในเดือนนี้
