เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนี้ใครชอบสั่งซื้อเครื่องสำอางทางออนไลน์ต้องดู ชุดสืบนครบาลบุกจับโรงงานเครื่องสำอางเถื่อนย่านสำเหร่ พบพนักงานใช้ไม้พายกวนครีมในกะละมังนั่งกับพื้น หลังลูกจ้างสาวถูกน้ำร้อนลวกเป็นแผลเหวอะ แต่นายจ้างเยียวยาแค่ 1,000 บาท ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ
ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สน.บางมด และเจ้าหน้าที่ อย. บุกเข้าตรวจค้นโรงงานเครื่องสำอางในบ้านพักย่านสำเหร่ เขตธนบุรี ก่อนจับกุมนายฐิติวัชร์ อายุ 63 ปี เจ้าของโรงงาน พร้อมของกลางทั้งโลชั่นนวดฝ่าเท้า, ผลิตภัณฑ์น้ำหอม และเจลอาบน้ำจำนวนมาก
ที่น่าตกใจคือ ขณะเข้าตรวจค้นพบพนักงานหลายคนกำลังนั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใด ๆ กวนครีมกับไม้พายบนพื้น สภาพไม่ตรงปกกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียลที่คนงานใส่ชุดขาว สวมหมวก สวมถุงมือยาง
การบุกเข้าทลายในครั้งนี้สืบเนื่องมากจาก ก่อนหน้านี้มีหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือผ่านเพจดัง ผ่านไปถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่าตนเองทำงานในโรงงานแห่งนี้ แต่ประสบอุบัติเหตุน้ำร้อนในกะละมังลวกร่างกายเป็นแผลเหวอะทั่วทั้งตัว โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ แต่นายจ้างจ่ายเงินเยียวยาเพียงแค่ 1,000 บาท ซ้ำยังยื่นใบลาออกให้เธอเซ็นชื่อ จนถึงปัจจุบันนี้เธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ และจากสภาพครอบครัวของเธอที่มีลูกอ่อนเพียง 2 เดือน จึงใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก
พล.ต.ท.ธิติ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนให้ความช่วยเหลือ จนทราบว่าภายในโรงงานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้น จำนวน 5 คูหา สภาพคับแคบและไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยใด ๆ อีกทั้งยังสืบทราบว่าเป็นโรงงานที่มีการลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การบุกค้นดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักกับเจ้าของโรงงาน คือ 1.ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้ง 2.ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด 3.สถานที่ผลิตเครื่องสำอางปฏิบัติไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และ 4.ผลิตเครื่องสำอางปลอม และอื่น ๆ
ส่วนนายฐิติวัชร์ เจ้าของโรงงาน ยังยืนยันว่า สินค้าภายในโรงงานของตนเองมีคุณภาพมาตรฐาน เปิดโรงงานแห่งนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ผลิตสินค้าคอสเมติก เช่น แชมพู ครีมนวด สบู่ ครีม ฯลฯ ยอมรับว่าภาพที่นั่งกับพื้นและใส่ชุดทั่วไปทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ดูไม่เหมาะสมก็ต้องขออภัย และอยากชี้แจงว่าทางโรงงานมีชุดยูนิฟอร์ม แต่เป็นความหละหลวมและเร่งรีบ จึงไม่ได้เคร่งครัดกับพนักงาน ซึ่งน้อมรับและจะนำไปปรับปรุงแก้ไข แต่ยืนยันว่าระบบการผลิตได้มาตรฐานอย่างแน่นอน ส่วนอดีตพนักงานที่บาดเจ็บ ยกกะละมังผิดวิธี ไม่ปฏิบัติตามกติกาที่วางไว้
เจ้าของโรงงานบอกว่า ตนยังไม่ได้ให้พนักงานคนนั้นลาออก หากรักษาตัวหายเมื่อไหร่ก็กลับมาทำงานต่อได้ ตนเชื่อว่าสิ่งที่เป็นข่าวขณะนี้คือการโจมตีดิสเครดิต และปลุกปั่นพนักงานคนดังกล่าว ยืนยันว่าโรงงานตนเองจดทะเบียนถูกต้อง ไม่ได้เป็นโรงงานเถื่อนตามที่ระบุแต่อย่างใด
