“ทส.” เร่งตั้งศูนย์บัญชาการแก้ปัญหาช้างป่าช้างบุกทำลายพืชผลการเกษตร เร่งของบกลาง จ้างชาวบ้าน ร่วมผลักดันช้างกลับป่า
จากกรณีโขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน นับ 100 เชือก เข้ามาหากินและทำลายพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะไร่อ้อยของชาวบ้าน ในจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด (10ธ.ค.66) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนช้างป่ารวมกันมากกว่า 4,013-4,422 ตัว กระจายอยู่ในป่าอนุรักษ์ 69 แห่ง จากการรุกขยายพื้นที่เมืองและพื้นที่การเพาะปลูกเข้าสู่พื้นที่ป่าเพื่อพัฒนาประเทศ จึงเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างช้างป่าและมนุษย์
พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหา และ กำหนดมาตรการในการผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อป้องกันช้างป่าออกมานอกพื้นที่ทำลายพืชผลเกษตร รวมถึงบ้านเรือนประชาชนเสียหายหรือทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าในพื้นที่ รวมถึงสร้างคูกันช้างป่า รอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จัดทำทุ่งหญ้า แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และโป่งเทียมในพื้นที่
นอกจากนี้ จะเร่งรัดของบกลาง สำหรับจัดจ้างชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเป็นชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า รวมถึงจัดสร้างสถานที่ควบคุมพฤติกรรมช้างป่า และ จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาราษฎรที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งจะสำรวจประชากรช้างป่า โดยศึกษาโมเดลแนวทางการแก้ปัญหาจากต่างประเทศ พร้อมทั้งขอให้กำหนดมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาช้างป่า เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
