นายกฯ ลุยคุยบิ๊กนักธุรกิจญี่ปุ่น กระตุนลงทุนไทย ปลื้ม ฮอนด้า-อีซูู จ่อลงทุนไทยร่วม 7 หมื่นล้าน โวรัฐบาลอยู่ 4 ปีทุกโครงการสำเร็จแน่

นายกฯ ลุยคุยบิ๊กนักธุรกิจญี่ปุ่น กระตุนลงทุนไทย ปลื้ม ฮอนด้า-อีซูู จ่อลงทุนไทยร่วม 7 หมื่นล้าน โวรัฐบาลอยู่ 4 ปีทุกโครงการสำเร็จแน่

View icon 141
วันที่ 15 ธ.ค. 2566 | 18.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
‘นายกฯ‘ ลุยคุยบิ๊กนักธุรกิจญี่ปุ่น กระตุนลงทุนไทย ปลื้ม ‘ฮอนด้า-อีซูู‘ จ่อลงทุนไทยร่วม 7 หมื่นล้าน โวรัฐบาลอยู่ 4 ปีทุกโครงการสำเร็จแน่

เมื่อเวลา 16.30น. วันที่ 15 ธ.ค.(ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ที่เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางเยือนญี่ปุ่นวันแรก (15 ธ.ค.) ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้เจอนายไซโต เค็น (H.E. Mr. Saito Ken) รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งโดยตรง ก็ได้แสดงความยินดีไปเขายังบอกว่าจะจดจำไว้ เพราะตนเองคือคนแรกที่ได้มาร่วมงานในตำแหน่งดังกล่าว ก่อนร่วมงานสัมนากับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมรับฟังประมาณ 500 คน

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์กันยาวนาน และญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ลงทุนไปหลายล้านล้านบาทแล้ว โดยตนได้แจ้งถึงแนวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า เราจะทำอะไรบ้าง ทั้งการลงทุนในกรีนเอนเนอจี  อิเล็กทรอนิกส์พาร์ท รวมถึงเมกะโปเจกต์ต่างๆ เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ ก่อนพบกับ บริษัท มิตซุยกรุ๊ป ที่เป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น ได้พูดคุยถึงการสำรวจ และขุดเจาะแหล่งก๊าชธรรมชาติ ที่เขาสนใจและชำนาญ และความเป็นไปได้ในการใช้นำน้ำมันพืชใช้แล้วมาทำเป็นน้ำมันเครื่องบิน และทั้งวันก็ได้พูดคุยกับ 7 บริษัทยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัทฮอนด้าที่เขาลงทุนในไทยเยอะมาก และมีแผนลงทุนในไทย 5 หมื่นล้าน ในอีก 5 ปี ซึ่งตนได้บอกไปว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานสันดาบในรถยนไปเป็นอีวี เราให้ความสำคัญ เพราะอีกหลายคนทำงานในบริษัทเครือข่ายยานยนต์ของญี่ปุ่น ตนพยายามเร่งให้เขาสร้างโรงงานกรีน เอนเนอจีและปลั๊กอิน-ไฮบริด ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ตนเคยแถลงไว้ 

นายกฯ กล่าวต่อว่า อีกบริษัทคือนิสสัน ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ เขาเข้ามาในรถอีวีก่อน เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาคือ นิสสัน ลีฟ ซึ่งยืนยันว่าจะทำต่อเนื่องในเมืองไทย  ต่อมาคือมิตซูบิชิ ที่ทำรถกระบะเขาก็จะพัฒนารถกระบะอีวี ซึ่งรถกระบะเป็นรถที่ขายดีในไทยฉะนั้นการจะเปลี่ยนรถกระบะเป็นอีวีในไทย เพื่อพลังงานสะอาดถือเป็นปัจจัยสำคัญ ตนเองก็ได้เร่งให้เขาลงทุนให้เร็วขึ้น เพราะการเปลี่ยนจากสันดาบไปเป็นอีวีก็ค่อนข้างรวดเร็ว เขาจะใช้เราเป็นฐานในการส่งรถกระบะไปขาย อีกไม่กี่ปีก็จะเริ่มแล้ว 

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตนยังได้คุยกับบริษัทซูซูกิ แม้เป็นบริษัทเล็ก แต่อยู่ในไทยมานาน เขาทำอีโค่คาร์ คือ ซูซูกิสวิฟ เขาขอให้เราส่งเสริมต่อ ตนก็ได้แนะนำให้ทำมอเตอร์ไซไฟฟ้า เพราะเมืองไทยขายดี พร้อมกันนี้ยังได้หารือกับบริษัท อีซุซุ ซึ่งเขาก็พร้อมลงทุนอีกประมาณ 32,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า  เพราะ  2 ปีที่ผ่านมาเขาลงทุนไป 2 หมื่นกว่าล้านบาท ฉะนั้น 32,000 กว่าล้านใ นระยะเวลา 5 ปี จึงถือว่าเยอะกว่าช่วงที่ผ่านมา

นายกฯ กล่าวอีกว่า จากนั้นได้หารือกับมาสด้า ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งรถไปขายประเทศต่างๆ เขามั่นใจว่ารถเอสยูวีเรามีสมรรถนะที่ดีส่งขายยังต่างประเทศได้ บริษัทเหล่านี้ พยายามลงทุนเพิ่มในไทย แรงงานของไทยพึ่งพาบริษัทเหล่านี้เยอะ และบริษัทสุดท้ายที่เจอคือ โตโยต้า คือบริษัทที่ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่เมืองไทยมา 60 ปีแล้ว ประธานของบริษัทมาพูดคุยเองและเขาก็เคยอยู่เมืองไทยมาก่อน ถือว่าเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี ได้พูดคุยถึงการทำรถกระบะที่เขาขายดี คือ โตโยต้าไฮลักซ์

โดยภายในปี 2025 เขาจะเริ่มผลิตแล้วแม้จะช้าไปนิด แต่ผลิตเพียง 5,000 คัน ตนเองก็ได้ถามไปว่าทำไมผลิตน้อยจัง ซึ่งสิ่งที่เขาเป็นห่วงคือสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ตนเองจึงได้ยืนยันไปว่าเราขยายเครือข่ายตรงนี้ไปมาก ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน เขาก็จะกลับไปพิจารณา การเร่งผลิตรถกระบะอีวีให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ อีกส่วนของโตโยต้าทำเรื่องไฟแนนซ์รถยนต์ สอดคล้องกับการแก้หนี้ในระบบ หากเขาช่วยเราได้ในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบีบดอกเบี้ย หรือ ปรับเบี้ยปรับ ก็ต้องรบกวนด้วย

นายกฯ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ตนเองได้พูดคุยในวันนี้ คือการเร่งให้แต่ละบริษัทลงทุนอีวีให้เร็วขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้อยู่ในไทยมา 50 ปีถึง 60 ปีมีความเป็นไทยมองตาก็รู้ใจ อีกอย่างคือพูดคุยถึงการใช้พลังงานสะอาดที่จะเป็นหัวข้อหลักในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในวันที่ 17 ธ.ค.

เมื่อถามว่าพอใจ กับการหารือกับนักธุรกิจญี่ปุ่นตลอดทั้งวันหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า พอใจมาก เพราะญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่สำคัญของเรา และพูดจากันด้วยท่าทีที่ดี และเป็นมิตร ด้วยท่าทีที่ดี ฉะนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง แต่เราก็พยายามให้เขาเร่งการลงทุนเข้ามา เพราะโลกเปลี่ยนไปมาก และบีโอไอได้มีการเตรียมข้อมูลไว้ก่อนอย่างดีมาก

เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ ว่าโอกาสในการหารือจะสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์ ในรัฐบาลชุดนี้ นายกฯกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลตนเอง 4 ปี ทุกโครงการก็สำเร็จ เพราะเขาจะเข้ามาเร็ว บางอันก็เข้ามาปีหน้าแล้ว และขณะนี้บางเรื่องก็เริ่มการลงทุนแล้ว แต่อาจจะมีเรื่องของรถยนต์ไฮโดรเจน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าใช้ระยะเวลานานแค่ไหน แต่เรื่องอื่นก็กำลังดำเนินการอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง