พ่อร้องช่วยคดีลูกสาว ป.เอก พลัดตกแมนชันเสียชีวิต

View icon 211
วันที่ 18 ธ.ค. 2566 | 07.04 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - พ่อของ "น้องเฟิร์น" นักศึกษาปริญญาเอก อายุ 27 ปี ออกมาร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกสาวถูกทำให้ตกใจกลัว จนพยายามหนีออกจากห้อง จนพลัดตกลงจากแมนชันเสียชีวิต แต่คู่กรณีกลับถูกตั้งข้อหาเพียงไม่กี่ข้อหา และไม่มีข้อหาใดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตเลย

พ่อร้องช่วยคดีลูกสาว ป.เอก พลัดตกแมนชันเสียชีวิต
โซเชียลมีการแชร์เรื่องราวของ นางสาวอาภาพร หรือน้องเฟิร์น อายุ 27 ปี นักศึกษาปริญญาเอก พลัดตกจากระเบียงชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต ที่แมนชันแห่งหนึ่งในซอยลาดปลาเค้า 3 ถนนโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา คู่กรณีทราบภายหลังว่าเป็นสามีเจ้าของแมนชัน ขึ้นไปเคาะประตูห้องของน้องเฟิร์นเสียงดัง และพยายามจะพังประตูเข้ามา ด้วยความตกใจกลัว คิดว่าผู้ก่อเหตุจะบุกเข้ามาในห้อง จึงปีนหนีออกทางระเบียงหลังห้อง เพื่อไปห้องข้าง ๆ แต่กลับพลัดตกลงมาเสียชีวิต ส่วนคู่กรณีที่ขึ้นไปโวยวายจนน้องเฟิร์นตกใจกลัว ทำเพียงแค่ขอโทษ เป็นการเข้าใจผิด ขึ้นไปเคาะประตูผิดห้อง

นายสมชาย อายุ 60 ปี พ่อน้องเฟิร์น บอกว่า ลูกสาวเป็นคนขี้ตกใจมาตั้งแต่เด็ก เวลามีเสียงดังอึกทึกมักจะตกใจมากกว่าคนปกติ ช่วงที่ลูกสาวเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ก็พักอาศัยอาศัยอยู่ที่แมนชันแห่งนี้ จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี, ปริญญาโท และปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับปริญญาเอก เหลือเพียงแค่การส่งชิ้นงานสุดท้าย และทำเรื่องจบการศึกษาก็จะเป็นด็อกเตอร์

หลังเกิดเหตุจึงได้คุยกับเพื่อนน้องเฟิร์น ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ทราบที่มาว่า สามีเจ้าของแมนชันแห่งนี้เมา กลับมาตอน 04.00 น.เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา พอมาถึงแมนชันสังเกตเห็นว่า ที่จอดรถเดิมของตัวเอง มีรถคนอื่นมาแทนที่ ก็เลยโมโห ไปถามแม่บ้านว่าใครมันมาจอดรถทับที่ แม่บ้านก็บอกว่าน่าจะเป็นห้องนี้แหละ ห้องของน้องเฟิร์นซึ่งอยู่ชั้น 6 ก็เลยขึ้นไปเคาะประตู จากเคาะตามมาด้วยการด่าทอ ท้าทาย มึงออกมาสิ ๆ และเหมือนจะมีการพยายามพังประตูเข้ามาด้วย ทำให้น้องเฟิร์นที่กำลังนอนหลับอยู่ ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ มีคลิปเสียงช่วงนี้ให้ฟังด้วย

พ่อเล่าต่อว่า ช่วงเกิดเหตุลูกสาวได้แช็ตขอความช่วยเหลือกับเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ชั้น 3 เพื่อนก็ได้ยินเสียงโวยวาย แต่ไม่กล้าขึ้นมาช่วย เพราะกลัวชายคนนี้มีอาวุธและคลุ้มคลั่งอยู่ จึงตัดสินใจลงไปขอความช่วยเหลือกับ รปภ.อาคาร แต่พอไปถึงชั้นล่าง และกำลังเดินไปขอความช่วยเหลือกับ รปภ. ก็เห็นร่างลูกสาวร่วงตกลงมากระแทก ทะลุหลังคาโรงจอดรถจักรยานยนต์ เสียชีวิตต่อหน้าต่อตา

หลังจากเกิดเรื่อง สามีผู้ดูแลหอพัก พูดได้เพียงว่าขอโทษ ไม่เคยพูดถึงเรื่องการเยียวยาอะไรเลย พ่อยอมรับว่าเสียใจมาก อยากให้ผู้ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบ

พ่อของน้องได้พาทีมงานสายไหมต้องรอด ลงพื้นที่ไปที่แมนชันที่เกิดเหตุ จากการสอบถามแม่บ้านแมนชัน ทราบว่าคนที่ก่อเหตุไม่ใช่สามีเจ้าของแมนชัน เป็นเพียงลูกบ้านในแมนชัน และหลังก่อเหตุได้ย้ายออกไปทั้งครอบครัวแล้ว และรถจักรยานยนต์คันที่จอดขวาง ก็ไม่ใช่ของน้องที่เสียชีวิตด้วย

พ่อไม่ยอม ชายทำลูกสาว ป.เอก ตกแมนชัน ถูกแจ้ง 3 ข้อหา
ตำรวจ สน.โชคชัย ได้แจ้งข้อหากับชายคนนี้ 3 ข้อหา คือ 1.บุกรุกในเวลากลางคืน 2.ขู่เข็นใช้กำลัง 3.ส่งเสียงดังทำให้เกิดความรำคาญ ทั้ง 3 ข้อหา ผู้เป็นพ่อมองว่าโทษเบาเกินไป เพราะเชื่อว่าหากวันนั้นไม่มีคนไปคุกคาม ลูกก็ไม่ตกใจกลัวจนเกิดเหตุสลดนี้

เราสอบถามไปยัง สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ มองว่าข้อหาที่ตำรวจแจ้งถูกต้องแล้ว หากจะเอาผิดมากกว่านี้ ยังถือว่าพฤติการณ์ไม่ถึงข้อกฎหมายหนัก เพราะตอนก่อเหตุยังไม่ได้เข้าไปในห้อง การคุกคามอยู่ข้างนอก จึงอาจจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าส่งผลโดยตรงต่อการเสียชีวิต

แต่อีกมุมหนึ่ง ความเห็นตรงข้ามอย่าง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ บอกว่า เอาผิดได้เต็ม ๆ มีการยกคำพิพากษามาเปรียบเทียบ

แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้หรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์นี้อย่างที่บอกไปว่า ตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้บุกเข้าไปในห้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักศึกษาปริญญาเอกคนนี้ตกใจ จนต้องหนีออกทางระเบียงและเกิดอุบัติเหตุ อาจต้องใช้หลายปัจจัยพิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง