เช้าข่าว 7 สี - ไปที่จังหวัดนนทบุรี มีชายคนหนึ่งถูกจับดำเนินคดีติดคุกกว่า 6 ปี พอพ้นโทษออกมา ถูกญาติปลอมลายเซ็นเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ที่เสียชีวิต นำที่ดินไปขายกว่า 50 ล้านบาท
นายปรีชา อายุ 42 ปี พร้อมภรรยา นำหลักฐานเข้าพบ นายวัชระ เลิศพงศ์วรพันธ์ ทนายความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเครือญาติ 6 คน หลังเชื่อว่ามีการปลอมลายเซ็นในพินัยกรรม เป็นผู้จัดการมรดกแม่ของตนเองที่เสียชีวิต แล้วนำที่ดินไปขายบางส่วนเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท
โดยนายปรีชา เล่าว่า เมื่อปี 2553 ตนเองถูกจับดำเนินคดี จำคุกอยู่ในเรือนจำนนทบุรี กว่า 6 ปี ซึ่งระหว่างต้องโทษแม่อายุ 88 ปี ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา กลุ่มเครือญาติได้นำเอกสารมาให้ตนเซ็น ซึ่งตนอ่านหนังสือไม่ออกเพราะเรียนจบไม่ถึงชั้นป.6 ครั้งแรกตนเองไม่ยอมเซ็น แต่หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่เรือนจำก็นำเอกสารมาให้เซ็นอีก และพูดจาข่มขู่ ด้วยความกลัวจึงเซ็น
ต่อมาเมื่อพ้นโทษเมื่อปี 2561 จึงมาทราบว่า ทางกลุ่มเครือญาติได้ไปร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ตน โดยการปลอมลายเซ็นแม่ตนเอง มีการนำดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ติดถนนรัตนาธิเบศร์ นำไปขาย ได้เงิน 36 ล้านบาท และที่ดินจำนวน 11 ไร่ อีก 11 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 47 ล้านบาท โดยกลุ่มญาติแบ่งเงินให้มาเพียง 4 ล้านบาท เท่านั้น
นายปรีชา เล่าต่อว่า ตอนนี้ยังมีที่ดินเหลืออีกอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และนนทบุรี รวมกว่า 100 ไร่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ถูกโอนแบ่งไปเป็นชื่อเครือญาติรวม 6 คน ซึ่งตนเองเกิดข้อสงสัยในมรดกของแม่ว่า ทำไมตนเป็นลูกคนเดียว แต่ทำไมมรดกต้องถูกแบ่งให้คนอื่นที่เป็นญาติห่าง ๆ กัน จึงได้นำเรื่องมาคุยกับแม่ยายและภรรยา ในที่สุดได้นำเรื่องราวและหลักฐานมาปรึกษา นายนนทรานุวัฒน์ พรหมจันทร์ ประธานคณะติดตามงานจังหวัดนนทบุรี ให้ช่วยเหลือ และได้มอบหลักฐานให้ทนายความดำเนินการพาเข้าแจ้งความ
นายวัชระ ทนายความ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างมอบหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และอยู่ระหว่างเรียกผู้เสียหายเข้าสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป