พริตตี้ท้องลูกสาว ถูกหนุ่มจีนเทงานแต่งหนีกลับประเทศ

พริตตี้ท้องลูกสาว ถูกหนุ่มจีนเทงานแต่งหนีกลับประเทศ

View icon 243
วันที่ 21 ธ.ค. 2566 | 14.10 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พริตตี้สาวร้องสายไหมต้องรอด คบหาหนุ่มจีนจนตกลงแต่งงานกัน ระหว่างนั้นตั้งท้อง พอผลอัลตราซาวนด์ออกได้ลูกสาว ถูกเทงานแต่ง ผู้ชายบินกลับจีนอ้างไม่พร้อม 

21 ธ.ค.2566 นางสาวเนย พริตตี้สาวอายุ 36 ปี เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือหลังถูกหนุ่มจีนหลอกแต่งงาน

นางสาวเนยบอกว่าตนรู้จักกับฝ่ายชายผ่านแม่สื่อคนจีนที่เป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งแม่สื่อมาทำธุรกิจปล่อยเช่าคอนโดในประเทศไทยได้ 3-4 ปี และอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกันกับเธอและครอบครัวจึงสนิทกัน ได้แนะนำนักธุรกิจชาวจีน อายุ 42 ปี ให้เธอรู้จัก โดยแม่สื่ออ้างว่าเป็นญาติกับฝ่ายชาย เธอจึงไว้ใจแม่สื่อและลองคุยกับฝ่ายชาย เริ่มคุยกันตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รู้สึกเข้ากันได้ดี จึงนัดฝ่ายชายมาเจอในเดือนมิถุนายน ซึ่งตอนนั้นเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองคน

หลังจากนั้นก็คบหากันตามปกติ ไปกินข้าว ไปเที่ยว ด้วยกัน ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ฝ่ายชายก็กลับไปทำงานที่ประเทศจีน แต่ก็คุยกันตลอด จนฝ่ายชายเดินทางกลับมาประเทศอีกครั้งเพื่อจะมาสู่ขอฝ่ายหญิง โดยพาญาติเดินทางมาจากประเทศจีนด้วย และมีแม่สื่อคนจีนที่เป็นเพื่อนบ้านมาเป็นพยานในงาน

ตลอดเวลาที่คบกันฝ่ายชายบอกเธอตลอดว่าอยากมีครอบครัว อยากมีลูก 2-3 คน เป็นเพศอะไรก็ได้ จึงรู้สึกมั่นใจว่าฝ่ายชายอยากสร้างครอบครัว หลังจากนั้นเธอตั้งท้อง ฝ่ายชายก็ดีใจและดูแลเธอดีทุกอย่าง จนวางแผนเรื่องแต่งงานกัน ไปถ่ายพรีเว็ดดิ้ง เตรียมของชำร่วยในงาน ดูฤกษ์งานแต่ง เป็นวันที่ 9 กันยายน ซึ่งงานแต่งถูกเตรียมไปแล้วประมาณ 70% และเธอก็เป็นฝ่ายสำรองเงินค่าใช้จ่ายงานแต่งทั้งหมดเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งฝ่ายชายอ้างว่าจะนำมาคืนให้หลังเสร็จงานแต่ง

หลังจากนั้นฝ่ายชายเดินทางกลับประเทศจีนอีกครั้ง เป็นช่วงที่หมอนัดตรวจสุขภาพเด็กในท้อง ซึ่งหมอได้ตรวจเพศลูกให้ด้วยและพบว่าเป็นลูกสาว จึงได้แจ้งฝ่ายชายไป หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ขอให้เลื่อนงานแต่ง ไปเป็นช่วงเดือนตุลาคม อ้างว่ายังไม่พร้อม และมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เริ่มไม่ตอบข้อความ เธอจึงเดินทางไปหาที่ประเทศจีนแต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมมาเจอและขาดการติดต่อไปเลย

เธอจึงไปหาแม่สื่อให้ช่วยติดต่อฝ่ายชายให้แต่แม่สื่อปฏิเสธและบอกว่ากับคนอื่นที่เธอเป็นแม่สื่อให้ก็ได้ลูกชายทั้งนั้น เธอจึงมั่นใจว่าเป็นขบวนการล่าลูกชาย จากนั้นแม่สื่อก็ไม่ยอมติดต่อฝ่ายชายให้และไม่คุยกับครอบครัวเธออีกเลย เธอจึงมาขอให้ทีมสายไหมต้องรอดช่วยเหลือเพราะสงสารลูกในท้องต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเกิดมา และอยากฝากเตือนหญิงไทยคนอื่น ๆไม่อยากให้ถูกหลอกเหมือนเธอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง