ข่าวภาคค่ำ - อดีตทหารเกณฑ์ ในจังหวัดนครพนม ร้องเรียนว่า เงินเดือนและเบี้ยเลี้ยง ที่ต้องได้รับหลังปลดประจำการ หายไปราว 10,000 บาท แต่ไม่มีคำชี้แจง จึงอยากให้คอลัมน์หมายเลข 7 นำเสนอข้อมูลและตรวจสอบความผิดปกติ ติดตามกับคุณอรรถพล ดวงจินดา
เมื่อปลดประจำการ ยอดเงินคงเหลือติดในบัญชีมีเพียง 900 บาท บางคนก็ไม่เหลือเลย ต่างจากหน่วยอื่นในค่ายเดียวกัน ที่มีเงินติดบัญชีคงเหลือมากกว่า 10,000 บาท เป็นความผิดปกติที่อดีตทหารเกณฑ์ สังกัดมณฑลทหารบก ที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม ผลัด 2/2564 บอกกับครูฝึก
ก่อนจะส่งเรื่องมาที่คอลัมน์หมายเลข 7 ให้ช่วยนำเสนอข้อมูลและตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล โดยทั้งคู่เชื่อว่า น่าจะมีการยักยอกเงินเบี้ยเลี้ยง และเงินเดือนของทหารเกณฑ์
เนื่องจากระหว่างที่พวกเขาและเพื่อนทหารในหน่วยทั้งหมด 93 นาย ประจำการ ไม่เคยมีใครได้เห็นสมุดเงินฝากและบัตร ATM เลย เพราะการเบิกเงินรายเดือน จะมีจ่ากองร้อย นำบัตร ATM ที่ตั้งเลขรหัส 111111 เหมือนกันหมดทั้งหมด ไปกดให้
ภาพถ่ายสมุดเงินฝากออมทรัพย์เล่มนี้ เป็นหลักฐานที่อดีตทหารเกณฑ์นำมายื่นแสดง โดยภายในสมุด มีรายละเอียดที่ทำให้เห็นถึงตัวเลขเงินฝากในแต่ละเดือนซึ่งไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่เงินหลักร้อย ไปจนถึงยอด 7,120 บาท
แต่ยอดเงินนี้ อดีตทหารเกณฑ์ บอกว่า เขาได้เพียงแค่ 2 เดือน และจากนั้นก็เหลือยอดเพียง 6,000 กว่าบาทในทุก ๆ เดือน เฉลี่ยแต่เดือนละเดือนมีเงินหายไปประมาณ 300-600 บาท
ยอดเงินที่ผู้ร้องอ้างว่าขาดหายไปในแต่เดือน ซึ่งไม่เท่ากัน แต่เป็นเงินหลักร้อย หากฟังผิวเผิน อาจดูเป็นยอดเงินที่ไม่มากมากนัก แต่ถ้าตั้งสมมติฐานว่าพลทหาร 93 นาย ถูกยักยอกเงินเดือนละ 620 บาท เป็นเวลา 2 ปี จะคิดเป็นเงินมากถึง 1,383,840 บาท
ข้อพิรุธที่ชัดเจนคือ เหตุใดจึงมีการยึดเอทีเอ็ม และสมุดเงินฝาก รวมทั้งยังมีการกดเงินแทน ผ่านรหัสเดียวกันทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่เงินเหล่านั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคลของพลทหาร แต่พวกเขากลับถูกจำกัดสิทธิ ทำได้เพียงยอมรับตัวเลขเงินที่น้อยกว่ารายได้จริง
เงินส่วนต่างหายไปไหน เข้ากระเป๋าใครหรือไม่ เป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดไม่ควรปล่อยผ่าน แต่ต้องชี้แจง และปกป้องสิทธิของพลทหารเหล่านี้ อย่าให้เกิดความรู้สึกว่ามารับใช้ชาติ ยังถูกโกง