สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - สำนักงานเจ้าท่าสุราษฎร์ธานี สั่งกู้เรือโดยสารนอนไปเกาะเต่า ภายใน 15 วัน พร้อมสั่งระงับใช้เรือ หลังเกิดเหตุล่มในอ่าวไทย ห่างเกาะเต่า 5.5 ไมล์ทะเล เนื่องจากเครื่องสูบน้ำในเรือชำรุด สูบน้ำออกจากเรือไม่ได้ และฝ่าคลื่นลมสูงกว่า 3 เมตร
เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ขณะที่เรือโดยสารแบบเรือนอน ชื่อเรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 ที่รับนักท่องเที่ยวจากท่าเทียบเรือสุราษฎร์ธานี ไปเกาะเต่า เผชิญคลื่นลมสูง 3 เมตร แต่เครื่องสูบน้ำในเรือชำรุด ทำให้สูบน้ำออกจากเรือไม่ได้ ผู้ควบคุมเรือพยายามประคองเรือให้ถึงเกาะเต่า แต่สุดท้ายไปต่อไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือหน่วยกู้ภัยเกาะเต่า และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.ภาค 2 เข้าช่วยเหลือลำเลียงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวไทย และลูกเรือทั้งหมด 102 คน ออกจากเรือไปยังเกาะเต่าได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก่อนเรือลำดังกล่าวจะล่มทั้งลำเวลา 10.00 น. และห่างจากเกาะเต่า 5.5 ไมล์ทะเล
ด้าน นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน สั่งการให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารบนเรือ ซึ่งผู้ประกอบการและชาวบ้านได้นำอาหาร น้ำดื่ม มาให้ผู้ประสบเหตุ พร้อมจัดรถบริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปโรงแรมที่พักที่จองไว้
ส่วนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน ออกหนังสือคำสั่งให้กู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จม โดยให้ทำเครื่องหมายแสดงอันตรายให้เรือที่ผ่านสังเกตได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และให้เร่งกู้เรือ หรือ รื้อ ขนย้าย หรือทำลายซาก ออกให้พันจุดที่เรือจม ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน พร้อมออกหนังสือถึง นายไพฑูรย์ คงจันทร์ เจ้าของเรือ แจ้งการห้ามใช้เรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 จนกว่าจะดำเนินการให้มีสภาพที่เหมาะสมใช้งานต่อไป
ขณะที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง หรือ เรือ ต.112 พร้อมนักประดาน้ำ ไปช่วยเหลือเก็บกู้อุปกรณ์เรือนอนลำดังกล่าวแล้ว ท่ามกลางคลื่นลมแรง
สำหรับเรือนอนลำนี้ ตัวเรือทำจากไม้ ขนาด 114.93 ตันกรอส เขตการเดินเรือ ลำน้ำ และทะเล ระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดนราธิวาส ห่างจากฝั่งหรือเกาะไม่เกิน 24 ไมล์ทะเล ในเวลาคลื่นสงบ ประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกคนโดยสารและสินค้า อนุญาตให้ใช้เรือได้จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2567
