ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พ่อกับแม่ ออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว อายุ 19 ปี ที่กำลังอยู่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสียชีวิตจากการตกตึกหอพัก แต่ตำรวจกลับลงความเห็นว่า ลูกตนป่วยซึมเศร้า เสียชีวิตลงมาเอง แต่หมอตรวจชันสูตรศพ พบว่าไม่มีสารจากยารักษาโรคซึมเศร้าอยู่ในเลือด พอขอดูกล้องวงจรปิดที่หอพัก เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่ากล้องทั้ง 11 ตัวของตึกเสียหมด ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 5 เดือนแล้ว พ่อกับแม่ยังไม่เคยได้รู้เลยว่าลูกเสียชีวิตเพราะเหตุใด มีคนทำให้ตกใจแล้วพลัดตกตึกมาหรือไม่
นายเพชร บุษราคัมมณี อายุ 70 ปี และนางกิ่ว บุษราคัมมณี อายุ 48 ปี พ่อและแม่ของ นางสาวกรกช บุษราคัมมณี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหวิทยาลัยมหิดล ไปร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด
นายเพชร บุษราคัมมณี พ่อของนักศึกษาที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูกคนเดียวเป็นลูกสาว เรียนอยู่มหาลัยมหิดลปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 โดยนิสัยส่วนตัวลูกสาวเป็นคนร่าเริง แจ่มใส ลูกตนเองเสียชีวิตวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. โดนตำรวจสรุปการตายว่า "ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า" โดดตึกลงมาเสียชีวิตเอง ไม่มีคนทำให้เสียชีวิต ตนเองจึงรู้สึกย้อนแย้งกับข้อมูลของตำรวจ เพราะลูกสาวไม่เคยป่วยซึมเศร้าเลยตั้งแต่เด็ก และหมอยังตรวจชันสูตรศพอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบสารจากยารักษาโรคซึมเศร้าในร่างกายเลย
อีกทั้งก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ตนพาลูกไปทานข้าว และได้ไปส่งลูกที่มหาวิทยาลัย และในวันเกิดเหตุแม่ยังโทรศัพท์ไปพูดคุยตอนเวลา 09.00 น. ลูกยังบอกว่ากำลังจะออกไปซื้อข้าวกิน และหลังจากวางสาย ลูกตนก็เดินลงไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อโดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ จนกระทั่งมาเกิดเหตุเวลา 10.00 น. ทางมหาวิทยาลัยโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกสาวพลัดตกตึกหอพักที่ 11 เสียชีวิตแล้ว ตนตั้งข้อสงสัยว่าลูกตนเองอาศัยอยู่ตึกที่ 10 แต่มาเสียชีวิตตึกที่ 11 บริเวณชั้น 6-7 โดยตกมาจากชั้นไหนตำรวจก็ยังไม่รู้แน่ชัด แล้วอยู่ดี ๆ ลูกตนต้องไปที่ตึก 11 ทำไม และช่วงวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นช่วงปิดเทอม ไม่ค่อยมีนักศึกษามาพัก แต่ที่ลูกตนเองต้องมาที่หอ เพราะมีคณะกรรมการหอพักโทรศัพท์มาเรียกให้ไปประชุมในวันที่ 27 กรกฎาคม ซึ่งจริง ๆ แล้วลูกตนวางแผนไว้ว่าจะไปหอพักในวันที่ 2 สิงหาคม
หลังเกิดเหตุตนได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ได้รับคำตอบจากทางมหาวิทยาลัยว่า หอพัก 11 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุนั้น กล้องวงจรปิดเสียทั้งหมด ขณะที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ยอมมาชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขนาดตนจะไปเชิญวิญญาณลูกออกจากหอพัก ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาชี้จุดตรงที่ลูกเสียชีวิตเลย
ตอนนี้เวลาผ่านไป 5 เดือน ก็ไม่เคยได้รับข้อมูล จากทั้งจากทางมหาวิทยาลัย และพนักงานสอบสวนเลยว่า ลูกสาวเสียชีวิตอย่างไร ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ไม่รับสาย ตนเชื่อว่าลูกอาจจะกลัวอะไรบ้างอย่างทำให้ลูกพลัดตกตึกลงมา
มีปัญหาเรื่องการที่ลูกสาวเป็นกรรมการหอพัก แต่ยากจะถอนตัวออก แต่ทางคณะกรรมการคนอื่นไม่ยอม ส่วนเรื่องความขัดแย้งอื่นนั้นไม่มีนายเอกภพ เปิดเผยว่า ต้องตรวจสอบให้ปรากฏความจริงว่าในวันเกิดเหตุนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะเหมือนมีความพยายามที่จะปกปิดพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของคดีจะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยไปดูคดีนี้ และจะพาไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยียวยา และไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ช่วยเหลืออะไรได้บ้าง รวมถึงหาทนายความเพื่อสู้คดีต่อไป สิ่งที่น่าขนลุกที่สุดคือ พ่อกับแม่บอกผมว่า หลังร้องทุกข์เรื่องราวกับผมเสร็จ เขาจะตามไปอยู่กับลูกสาว
ต่อมา ช่วง 13.00 น. นายเอกภพ ได้พาพ่อกับแม่เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อพบกับ พลตำรวจเอก พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ให้ข้อมูลว่า น้องผู้เสียชีวิตพักอยู่กับเพื่อนห้อง 4 คน ในห้องพักตึกที่ 10 ช่วงประมาณ 09.30 น. พบน้องลงไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณระหว่างบันไดหนีไฟชั้น 6-7 ของตึก 11 พบขวดน้ำกับถุงขนมของน้องวางอยู่ จากการตรวจสอบในห้องพักพบยารักษาโรคอยู่บนเตียงของน้องที่เสียชีวิต แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร
จากนี้ไปจะสั่งให้ร้อยเวรชุดใหม่มาทำสำนวนใหม่ทั้งหมด และต้องส่งถุงขนมไปตรวจสอบดีเอ็นเอทั้งหมด ส่วนร้อยเวรคนเก่า ตนมองเห็นข้อผิดพลาดหลายอย่าง อาจมีการตั้งขณะกรรมการสอบ