(31 ธ.ค. 66) เรียกได้ว่ากระตุกต่อมเผือกชาวโซเชียลมาตลอดทั้งคืน สำหรับประเด็นดรามาของ "เบียร์ เดอะวอยซ์" หรือ หรือ เบียร์ ภัสรนันท์ นักร้องเสียงดี กับคู่กรณี หลังมีกระแสข่าว เบียร์ เดอะวอยซ์ แอบแซ่บกับแฟนเพื่อน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจาณ์ในโลกโซเชียลเป็นจำวนมาก
ซึ่งต่อมาทาง "เบียร์ เดอะวอยซ์" ได้ออกมาไลฟ์สด พร้อมได้ระบุแคปชันว่า "ไม่ต้องรอเพจอื่นโพส ไม่ต้องคิดเอง เบียร์ จะโทรหาเจ้าตัวเองเลย งงมากกับการโพส แชท ปิดชื่อคนอื่น เปิดชื่อตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า ไม่ได้มีอะไรตามที่เอาไปตีข่าวกัน #เบียร์เดอะวอยซ์" ซึ่งภายในไลฟ์ "เบียร์ เดอะวอยซ์" ได้ตั้งคำถามและข้อสงสัยหลายอย่าง และได้พยายามต่อสายตรงถึงคู่กรณีแต่คู่กรณีไม่รับสาย
โดย เบียร์ ได้บอกในไลฟ์ว่า "เรื่องมันมีแค่ 3 คน ทุกคนรู้อะไรเกิดขึ้น มีอะไรสุดท้ายทำไมไม่โทรมาคุยกัน แล้วคนก็ด่าแต่เบียร์ ไม่แฟร์เลย ไม่แฟร์ และเบียร์โทรไปหลายรอบ เขาไม่รับสาย เขารู้อยู่แก่ใจว่าเหตุการณ์จริงไม่ได้เป็นอย่างในข่าว หรือเพจไหนโพสต์ แต่เขาไม่คิดออกมาแก้เลยหรอ เขาไม่พูด เขาไม่ออกมาแก้ ไม่ออกมาแก้ไม่พอ แต่เอาแชตที่ตัวเองอยากให้คนอื่นเห็นไปโพสต์ ปิดชื่อคนอื่น เปิดชื่อตัวเอง อันนี้เบียร์สงสัย เบียร์มีคำถาม อยากทราบ แชตมันมีจริงๆ แต่เบียร์ถามหน่อยว่า ทำไมต้องทำให้คนอื่นเขาเข้าใจแบบนั้น มาพูดความจริงกัน ถ้าอยากให้แรง ก็แรงจะให้สุด ในข่าวมันแรงมากนะทุกคน มันไม่ธรรมดานะ เรามาคุยกัน"
ต่อมาคู่กรณีของ "เบียร์ เดอะวอยซ์" ได้ออกมาโพสต์รูปข้อความลำดับเหตุการณ์ไล่ยาว โพสต์ผ่านทางโซเชียล X ส่วนตัว ระบุข้อความไว้ว่า
- เรากับแฟนไม่ได้ห่างกัน ยังคงอาศัยอยู่ด้วยกันที่คอนโด ในวันงานปาร์ตี้เรารับรู้ว่าจะมีใครมาบ้างและยังเล่นกับสัตว์เลี้ยงของน้องอยู่เลย
- เรากับน้องรู้จักกันผ่านเพื่อนๆกลุ่มเดียวกัน ซึ่งในนั้นมีพี่ผู้จัดการน้องอยู่ด้วย ไม่ได้รู้จักผ่านสังคมคริสเตียนแน่นอน
- ความสัมพันธ์ไม่ได้ชะงัก แต่ในระหว่างทางก็มีปัญหาชีวิตคู่แบบคู่อื่นๆปกติทั่วไป โดยครั้งแรกที่น้องเดินทางมาที่คอนโด เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อจัดงานวันเกิดของน้อง และเพื่อนๆในกลุ่มรวมถึงตัวเราเองที่เกิดใกล้ๆกัน
- เรื่องนี้ไม่ทราบและไม่มีสัญาณมาเลยค่ะว่าเขามีความรู้สึกดีๆต่อกัน เพราะเราไว้ใจและไม่ได้คิดอะไรเพราะในการเจอกันแต่ละครั้งจะเป็นการรวมตัวของเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ กลุ่มเดิมเสมอ ยกเว้นงานปาร์ตี้ครั้งล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น
- อันนี้ไม่ทราบว่าทั้งคู่คุยกันอย่างไร แต่เรื่องราวระหว่างกับฝั่งผู้ชายไม่มีครั้งไหนเลิกกันสักครั้ง
- วันที่เกิดเหตุเราได้ขอตัวไปนอนก่อน เพราะอีกวันต้องทำงานเช้า แต่ก็นอนหลับไม่สนิทเพราะได้ยินเสียงเพื่อนๆที่มางานเริ่มทยอยกลับกัน แต่ยังได้ยินเสียงสัตว์เลี้ยงของน้องอยู่ เวลาที่จำได้คือตี 4 : 58 เลยตัดสินใจเดินออกจากห้องไปดู ภาพที่เราเห็นคือ น้องนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฝั่งช้ายริมระเบียงห้อง และฝ่ายชาย ยืนในลักษณะโน้มตัวลงเข้าหาน้องที่นั่งอยู่ ซึ่งเรามั่นใจว่าลักษณะที่เห็นไม่ใช่คนที่นั่งคุยกันปกติ
- แน่นอน เราเลยเรียกฝ่ายชายเข้าไปคุยในห้องนอนและขอให้น้องกลับไปก่อนเพื่อที่เราจะได้เคลียกับคนของเราแค่ 2 คน แต่น้องไม่ยอมกลับ
- เราได้เข้ามาคุยกัน 2 คนในห้องนอน เขาบอกกับเราว่าเขาหมดรักเรานานแล้ว แต่ที่ยังไม่อยากบอกเลิกเพราะไม่อยากให้คริสมาสต์ปีนี้ เป็นปีที่โหดร้าย สำหรับเรา เราจึงบอกเขาว่าให้ไปนอนก่อน แล้วค่อยมาคุยกันพรุ่งนี้เพราะเขาดื่มค่อนข้างเยอะ เลยอยากคุยกันตอนมีสติมากกว่า และน้องที่ยังอยู่ได้เรียกเรา ออกมาพูดคุยเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
- เราไม่ได้หัวร้อนและทำให้เป็นข่าว เราได้มีการแชทพูดคุยกับน้อง เราขอบคุณน้องและน้องได้มีการขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยที่เราตั้งใจจะปรับปรุงความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และขอร้องน้องให้เว้นระยะห่างออกไปเพื่อเราหน่อย และในการโทรคุยกัน เราได้บอกกับน้องว่าสัญญาจะไม่บอกใคร แต่ถ้ามีใครถามเรื่องเลิกกันเราบอกว่าเราจะพูดความจริง ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นเราไม่ทราบว่าหลุดจากใคร ซึ่งตอนแรกที่เห็นก็รู้สึกว่ารนแรงเกินจริงไปบางส่วนเหมือนกัน
- ต่อมาน้องออกมาปฏิเสธ เราโดนโจมตีกลับ เราจึงต้องเอาแชทออกมาปกป้องตัวเอง เพราะมีคนบอกว่าเรากุเรื่อง โกหก ซึ่งในตอนนี้คือความจริงที่เราพิมพ์อยู่
- ภาพจากกล้องไม่ได้อยู่ที่เรา เราไม่ได้มีสิทธิ์เข้าถึงภาพเหล่านั้น และค่อนข้างมั่นใจว่าถ้ามีการโพสต์คลิปจากกล้องก็คงไม่ผิดจากที่เราพิมพ์ไว้ข้างบน
ซึ่งประเด็นทั้งหมดยังคงเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างต่อนื่อง