ห้องข่าวภาคเที่ยง - ก่อนหน้านี้ญาติของผู้เสียชีวิตที่ถูก "นายโบ้" เทรนเนอร์มวย ทำร้ายจนถึงแก่ความตาย มาร้องขอความเป็นธรรม ให้ตำรวจเร่งรัดจับกุมผู้ก่อเหตุ จนมีการออกหมายจับไปได้หมาด ๆ ล่าสุด นายโบ้ เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว
ย้อนเรื่องทั้งหมดแบบนี้ น้องสาวของผู้เสียชีวิตร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าได้รับโทรศัพท์จากสามีของพี่สาวที่ชื่อว่า นายโบ้ เป็นเทรนเนอร์มวย โทรศัพท์มาหาด้วยท่าทีตกใจ ถามว่า พี่ของตนมีโรคประจำตัวอะไรมาก่อนหรือเปล่า พอตอบไปว่าไม่มี ก็บอกว่า พี่ของตนมีอาการชัก ตัวเขียว ไม่รู้เป็นอะไร จึงถามกลับไปว่าทำไมไม่พาส่งไปโรงพยาบาล สามีของพี่สาวจึงตัดสายทิ้ง จากนั้นโทรกลับมาอีกทีบอกว่าถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกับสามีของพี่สาว ถามว่าคนไข้เป็นอะไรมา ทำไมถึงไม่มีชีพจร ซึ่งสามีของพี่สาว บอกไปแค่ว่า มีอาการชักเกร็ง หยุดหายใจ
พอตนเองกับแม่ตามมาถึง ก็เจอว่าพี่สาวไม่มีชีพจรแล้ว ได้แต่ขอให้หมอช่วยปั๊มหัวใจ ซึ่งก็มีสัญญาณชีพกลับมา แต่เกิดจากการใช้เครื่องช่วยหายใจและยา จากนั้นหมอก็ได้ถามตนเองกับแม่ ว่ารู้หรือเปล่าว่าคนไข้ถูกทำร้ายร่างกายมา กระดูกหัก มีเลือดออกในสมอง และก่อนจะมาถึงก็ไม่มีชีพจรมาก่อนแล้ว ซึ่งพอเอาเรื่องนี้ไปถาม "นายโบ้" สามีของพี่สาว ถึงยอมรับว่ามีเรื่องทะเลาะกันจริง กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม หมอแจ้งข่าวร้ายว่าพี่สาวเสียชีวิต และไม่สามารถติดต่อสามีของพี่สาวได้
ล่าสุด หลังจากที่ศาลออกหมายจับ นายธนวัฒน์ หรือ นายโบ้ อายุ 34 ปี ในความผิดฐาน "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย" ไปเมื่อวานนี้ นายโบ้ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางศรีเมือง แล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยตำรวจพาไปสอบปากคำอยู่ที่ห้องสืบสวนของ สน. ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าผู้ต้องหาให้การอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจาก "แพรว" ที่เสียชีวิตจากการถูกนายโบ้ ซ้อมอย่างทารุณ ก็ยังมีภรรยาอีก 1 คน ที่ตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ภรรยาของนายโบ้คนนี้ บอกว่า เคยถูกนายโบ้ ซ้อมปางตายต้องวิ่งแก้ผ้าหลบหนีออกมาจากคอนโดมิเนียม ย่านประชาชื่น เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2566 ที่ผ่านมา ตอนนั้นได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไปแล้ว แต่จนถึงตอนนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ตนเองก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงหลบหนีไปอยู่บ้านญาติที่อยู่บนภูเขาในต่างจังหวัด