จตุพรฟันธงวืดกู้เงินแจกดิจิทัลหมื่นบาท เชื่อคำตอบกฤษฎีกาบอกปัดอย่างสุภาพ กู้เงินทำตามใจไม่ได้ คาด สว.เปิดซักฟอก ทวงสัญญาดีลกลับบ้าน
เมื่อ 8 ม.ค. 2567 ว่า สว.ประกาศอภิปรายทั่วไปเท่ากับเป็นปฏิบัติการทวงหนี้ดีลจากนักโทษทักษิณ ชินวัตร และการโหวตเปิดทางโล่งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ดังนั้น ปฎิบัติการซักฟอกจึงย้ำเตือนถึงคำสัญญาที่ได้ดีล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอนซับซ้อน วานนี้ (8 ม.ค.67) ถึงการอภิปรายทั่วไปของ สว.ว่า เป็นปฏิบัติการเบื้องต้นก่อนพ้นวาระวันที่ 11 พ.ค. 67 สิ่งนี้แสดงถึงร่องรอยความผิดปกติ “ดีลกลับบ้าน” ของนายทักษิณ ชินวัตร แล้วยังไม่ติดคุกสักวัน อีกทั้ง สว. 152 เสียงโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมได้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ดังนั้น สว.ต้องการอภิปรายฯ จึงสะท้อนถึงการเร่งเตือนสัญญาดีลที่จะมาถึงในเร็ววัน ช่วงเดือน พ.ค.นี้
ส่วนกรณีที่นายเศรษฐาบอกว่า คณะกรรมการกฤษฎีส่งความเห็นการกู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกประชาชนตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายจตุพรให้ความเห็นว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งคำตอบมาปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยมีความเห็นว่ารัฐบาลกู้เงินได้แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ม. 53 และ ม.57 ซึ่งเท่ากับบอกรัฐบาลจะทำตามใจตัวเองต้องการจะทำไม่ได้ สอดคล้องกับความเห็นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ให้การสนับสนุนกู้เงินมาแจกโครงการดิจิทัล 5 แสนล้านบาท แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ข้อความตอนหนึ่ง นายจตุพร ระบุว่า ตามปกติแล้วรัฐบาลจะกู้เงินไม่ไปถามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีแบบประกาศทางสาธารณะเช่นนี้ โดยจะเรียกมาขอความเห็นลับๆ หรือออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินเพื่อให้มีผลสมบูรณ์โดยเร็ว ที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีความมั่นใจในโครงการแจกเงินดิจิทัล ถ้ามั่นใจต้องออกเป็น พ.ร.ก.ไปแล้ว ดังนั้นคนเป็นนักบริหาร ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนจะกู้เงินโดยออก พ.ร.บ.ไม่ได้ สิ่งสำคัญถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าทำได้ แล้วทำไมไม่ทำเลย จะออกเป็น พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.ก็ตาม แต่จะถูกยื่นคำร้องให้ศาล รธน.ตรวจสอบอยู่ดี
