รวบคนร้ายจับ รปภ.มัดมือมัดเท้า ก่อนพาพวกมาปล้นสายไฟ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 ตัน หลังก่อเหตุหลบหนีคดีมานานกว่า 8 ปี สุดท้าย หนีไม่รอดถูกจับ ขณะอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์
นายจรัญ บุญโชติ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นผู้ต้องหาตามปฏิทินประกาศสืบจับ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2566 ต้องการตัวลำดับที่ 44 โดย นายจรัญฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้มีพฤติการณ์ร่วมกันกับพวก เข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี พ.ศ.2558 โดยจับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มัดมือและเท้าไว้ จากนั้นจะช่วยกันเข้าไปตัดเอาสายไฟ รวมน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 ตัน เสร็จแล้วได้นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ในราคาประมาณ 100,000 บาท และได้นำเงินมาแบ่งกัน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปยัง จ.ระยอง และก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2559 แถวบริเวณอ่างเก็บน้ำประแสร์ ภ.จว.ระยอง โดยได้จับตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมัดมือและเท้าไว้ แล้วร่วมกันไปตัดเอาสายไฟนำไปขายเช่นเดียวกัน
ต่อมาวันนี้ 14 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 2 บก.สส.ภ.2 ได้ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามตัวมาโดยตลอด จนทราบว่า นายจรัญฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ อยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งหนึ่งใน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายจรัญฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ กำลังเล่นสนุกเกอร์อยู่ จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจพร้อมทั้งแสดงหมายจับ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.491/2558 ข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ หรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและไม่มีเหตุอันควร” และแสดงหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.9/2559 ข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ”
ซึ่งนายจรัญฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 หมาย ได้รับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 จึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับ พร้อมประสานพนักงานสอบสวน สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง เพื่อทำการอายัดตัวและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป