เปิดคลิปเสียงวัยรุ่น สารภาพกับรุ่นพี่ฆ่า ป้าบัวผัน

View icon 3.4K
วันที่ 16 ม.ค. 2567 | 06.16 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีการเสียชีวิตของ "ป้าบัวผัน" หญิงเร่ร่อนที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่ตำรวจสามารถแกะรอยจนพบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่น 5 ราย ที่พยายามอุ้มป้าไปทำร้ายจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางในสระ ภายในโรงเรียนศรีอรัญโญทัย ล่าสุด มีความคืบหน้าหลายประเด็น แต่ที่น่าสนใจ คือ มีคลิปเสียงที่ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายป้าบัวผัน ได้เล่าวินาทีฆ่าหญิงสูงวัยไร้ทางสู้คนนี้

เปิดคลิปเสียงวัยรุ่น สารภาพกับรุ่นพี่ฆ่า ป้าบัวผัน
ย้อนเหตุการณ์เหตุเกิดตั้งแต่คืนวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 02.00 น. โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกวินาทีโหดเหี้ยมได้ ตั้งแต่การทำร้ายป้าบัวผันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ พยายามอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ ป้าบัวผัน พยายามดิ้นจนร่วงลงพื้น และพยายามจะวิ่งหนี แต่วัยรุ่นก็ขี่รถย้อนกลับมา เตะเข้าที่ใบหน้าของป้าจนหงายหลัง ก่อนจะพยายามอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อไปทำร้ายจนถึงแก่ความตาย แล้วนำร่างโยนลงไปในสระเพื่ออำพราง

ซึ่งหลายคนอยากรู้ว่ารายละเอียดในเหตุการณ์ กลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้คิดอะไร ตั้งใจทำร้ายป้าถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่ เรามีคลิปเสียงที่หนึ่งในเยาวชนที่ทำร้ายป้าพูดคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง แล้วส่งคลิปเสียงนั้นให้ผู้สื่อข่าว สารภาพว่า เยาวชนกลุ่มนี้ตั้งใจฆ่าป้าให้ตาย ตอนที่ทำร้ายแล้วโยนลงสระ พบว่าป้ายังไม่ตาย ยังมีการจับป้ากดน้ำอีก

คุม 5 โจ๋ฆ่า ป้าบัวผัน สอบเข้ม
ล่าสุด ช่วงสายวานนี้ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาร่วมสอบปากคำเยาวชนทั้ง 5 คน โดยมี พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมอยู่ด้วย

พล.ต.ต.ออมสิณ เปิดเผยว่า คดีนี้เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ยังเป็นเยาวชน ต้องร่วมกับสหวิชาชีพสอบปากคำต่อหน้าพนักงานอัยการ คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน อีกทั้งเยาวชนทั้ง 5 คน ก็รับสารภาพหมดแล้ว พร้อมยืนยัน คดีนี้ไม่มีมวยล้มแน่ ถึงแม้เยาวชนผู้ก่อเหตุรายหนึ่งที่เป็นหัวโจก จะเป็นลูกตำรวจชั้นประทวนในพื้นที่ก็ตาม ก็ดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน

ส่วนกรณี นายปัญญา หรือ เปี๊ยก สามีของนางสาวบัวผัน ที่เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายและฆ่าเมีย ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ส่งไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสระแก้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม เมื่อเช้าวานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ นำหลักฐานส่งให้ศาล ศาลจังหวัดสระแก้วได้ส่งหมายถึงเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ให้ปล่อยตัวนายปัญญาแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวนนำ นายปัญญา ไปสอบเพิ่มเติมที่ สภ.อรัญประเทศ เนื่องจากสงสัยว่าทำไมจึงรับสารภาพแต่แรก แถมยังนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดเกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นตุเป็นตะอีกด้วย

สั่งเด้งตำรวจ พ่อ 1 ใน 5 เยาวชนฆ่า ป้าบัวผัน
ซึ่งกรณีที่หัวโจกเยาวชนที่ก่อเหตุเป็นบุตรชายของตำรวจ ก็มีรายงานว่า มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วก่อน นอกจากนี้ การหาพยานหลักฐานต่าง ๆ ในบริเวณที่พบศพ นางสาวบัวผัน นั้น มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้ดำน้ำหาของกลาง พบของกลางเป็นขาเก้าอี้อยู่ในบริเวณนั้น จึงส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน

ปล่อยตัวแล้ว ลุงเปี๊ยก พ้นมลทิน หลุดคดีฆ่าเมีย
ล่าสุด เรือนจำจังหวัดสระแก้ว ได้ปล่อยตัว นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ออกจากเรือนจำแล้ว โดยไม่มีญาติมารอรับแต่อย่างใด โดย ลุงเปี๊ยก กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ไปรอสัมภาษณ์ว่า ที่รับสารภาพเพราะชาวบ้านหาว่าตนเป็นคนฆ่าภรรยา ตนจึงรับสารภาพ แต่ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ผู้ต้องหาแล้ว ตนก็พ้นมลทินเรียบร้อยแล้ว

ทนายเดชา ชี้มุมกฎหมายคดีฆ่า ป้าบัวผัน
ยังมี 2 ประเด็นที่สังคมตั้งคำถาม คือ ตอนนี้เด็กและเยาวชนก่อเหตุอาชญากรรมมากขึ้น จะทำอย่างไร ต้องแก้กฎหมายเพิ่มโทษให้เด็กและเยาวชนหรือไม่ และอีกประเด็น คือ กรณีที่ตั้งข้อหาลุงเปี๊ยกไปแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อ เรื่องนี้ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความเพจทนายคลายทุกข์ ให้ความเห็นกรณีตำรวจตั้งข้อหาลุงเปี๊ยกว่า การที่ลุงเปี๊ยกสารภาพเพราะเมา เป็นไปได้ว่าไม่มีสติ ขาดสัมปชัญญะ จึงอาจกลายเป็นเรื่องขาดเจตนา ซึ่งอาจทำให้ไม่มีความผิด แต่คดีนี้มีลูกตำรวจร่วมก่อเหตุด้วย ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า มีคนให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพหรือไม่ แล้วค่อยทำสำนวนอ่อน ๆ เพื่อให้ยกฟ้องในชั้นศาลภายหลัง ส่วนที่แจ้งข้อหาลุงเปี๊ยกไปแล้วจะถอนข้อหาไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำผิด ต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง กรณีนี้ถือเป็นความไม่ละเอียดของตำรวจ

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนอายุน้อย และปัจจุบันมีสถิติก่ออาชญากรรมมากขึ้น จนมีเสียงเรียกร้องให้แก้กฎหมายเพิ่มโทษเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิด เด็กถือเป็นผู้ไร้เดียงสา มีวุฒิภาวะต่ำ กฎหมายไทยก็คุ้มครอง โดยเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ไม่ต้องรับโทษ, เกิน 12 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี ให้ใช้วิธีการสำหรับเด็ก ไม่ต้องเข้าคุก, อายุต่ำกว่า 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษ ซึ่งกระบวนการนี้เป็นสากล ดีอยู่แล้ว จึงควรไปดูที่พ่อแม่ว่าเอาใจใส่ลูกมากแค่ไหน ซึ่งจะเป็นเชิงป้องกันมากกว่า