สนามข่าว 7 สี - คุณผู้ชมยังจำชื่อนี้ได้ไหม อาร์ต ชินจัง โมเดลลิงเก๊ สาวประเภทสองที่เคยมีข่าวไปเมื่อปีที่แล้ว ว่าหลอกเหยื่อกว่า 50 คน จะพาเด็กเข้าวงการบันเทิง รวมความเสียหายหลักล้านบาท ไม่รู้คดีคืบหน้าถึงไหน แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มีผู้เสียหายถูกหลอกทำอนาจาร มาร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจสอบสวนกลางอีกแล้ว
ที่ไปร้องขอความช่วยเหลือเมื่อวานนี้ มี 4 คน เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งก็มีทั้งคนที่ถูกกระทำอนาจาร และญาติของผู้ที่ถูกกระทำ นำหลักฐานคลิปที่ถ่ายบรรยากาศในห้างฯ ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบ ภาพถ่ายใบหน้าของผู้ก่อเหตุ รวมถึงภาพข่าวที่เชื่อมโยงถึงตัวผู้ต้องหา ไปขอให้ตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้
โดยสรุปแล้วผู้ต้องหาใช้วิธีการแบบนี้ เริ่มจากการทักแช็ตไปหาคนที่สนใจอยากเข้าวงการบันเทิง ซึ่งก็มีทั้งคนที่ไปโพสต์หางานเป็นนักแสดงตัวประกอบในกลุ่มเฟซบุ๊ก, คนที่ทำคลิปโพสต์ลงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หว่านล้อมว่ามีใบหน้า รูปร่างค่อนข้างตรงกับที่ผู้กำกับต้องการให้มาแสดงละคร จากนั้นก็นัดทดสอบหน้ากล้องที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว มีการเก็บเงินค่าโพรไฟล์ และค่าสมัคร ประมาณ 1,000 บาท ซึ่งคนที่หลงเชื่อไปทดสอบบท มีทั้งชายและหญิง อายุ 15-20 ปี หลังจากนั้นจะทักไปหาเป็นการส่วนตัว จุดนี้ความเสียหายจะต่างกันไป บางคนถูกหว่านล้อมให้ไปจุดนัดหมายเพื่อทดลองเล่นบทบาทสมมติ และสุดท้ายจะบีบบังคับให้ทำอนาจารทางเพศ ขณะที่บางคนจะใช้วิธีหลอกให้จ่ายเงินค่าดำเนินการสมัครงานต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีงานจริงให้ทำแต่อย่างใด และบางคนยังถูกขอใช้บัญชีธนาคาร เพื่อรับโอนเงินจากผู้เสียหาย เข้าไปบัญชีของผู้ต้องหาอีกที
ทำให้ผู้เสียหายกลุ่มนี้เริ่มเอะใจ นำข้อมูลของโมเดลลิงที่ชื่อ เจด้า ไปสืบค้นข้อมูล จนไปเจอชื่อของ นายดาด้า หรือ อาร์ต ชินจัง ผู้ต้องหาที่เคยก่อคดีหลอกเหยื่อซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนกว่า 50 คน ว่าจะพาเข้าวงการบันเทิง รวมความเสียหายหลักล้านบาท ที่ผู้ปกครองรวมตัวเข้าแจ้งความไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ไม่เพียงเท่านี้ ยังเป็นคนที่มีประวัติก่อเหตุต่อเนื่อง ช่วงปี 2559 และ 2561 ทำให้เชื่อว่าผู้ต้องหาต้องการหลอกทำอนาจาร และโอนเงิน จึงรวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดี
เบื้องต้น ตำรวจได้พาผู้เสียหายไปแยกสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว
ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังบอกด้วยว่า มีเยาวชนชาย 2 คน อายุ 15 ปี ที่ถูกผู้ต้องหาหลอกไปกักขังในห้องพัก อดอาหาร ข่มขู่แบล็กเมล์ให้ทำอนาจาร ทำให้พนักงานสอบสวนต้องนัดแยกสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อสรุปพฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหา ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา พิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป
