ห้องข่าวภาคเที่ยง - DSI นำสำนวนคดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าซากหมูเถื่อน อีก 2 สำนวน ส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินคดี ใน 2 สำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งมีหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงชัดเจน เราจะไปติดตามรายละเอียดเรื่องนี้กับ คุณดารินทิพย์ วิมลพัฒน์ รายงานสดมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI
ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำสำนวนคดีความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐ จากการที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบนำเข้าซากหมูเถื่อน จำนวน 2 สำนวน สำนวนละประมาณ 3,000 หน้า ไปส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้พิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า และที่มีอำนาจให้การสั่งปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ นำเข้าชิ้นส่วนหมู จำนวน 3 ราย ในความผิด 3 ข้อหา คือ หลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนา, หลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา
โดย ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 3 ราย DSI พบพยานหลักฐานเกี่ยวการเส้นทางการเงิน เชื่อมโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนหมูเถื่อนชัดเจน จำนวน 2 บริษัท ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทที่นำเข้าชิ้นส่วนหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ และมียอดเงินที่เกี่ยวพันประมาณ 10 ล้านบาท ทำให้ DSI เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ 3 รายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และเข้าข่ายกระทำความผิด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้ได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับใด แต่ยืนยันว่าเป็นระดับที่มีอำนาจสั่งปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ นำเข้าชิ้นส่วนหมูเถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักรได้
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐ 3 คนนี้ เป็นการขยายผลเพิ่มเติม หลังจากที่ DSI ได้ส่งสำนวนและความเห็นดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มแรกให้ ป.ป.ช. ไปก่อนหน้านี้ จำนวนกว่า 10 ราย ซึ่งก็จะต้องมีการประสานสอบถาม ป.ป.ช. ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนแรกด้วยว่า ป.ป.ช. มีความเห็นอย่างไร เพราะในสำนวนแรกมีทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พบพยานหลักฐานความผิดชัดเจน และกลุ่มที่ถูกพาดพิง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ในการพิจารณา
ส่วนความเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า DSI เตรียมประชุมคณะทำงาน ซึ่งน่าจะมีประเด็นเรื่องการหารือออกหมายเรียกบุคคลเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการระดับสูง รวมถึงการขยายผลสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนไก่เถื่อน ที่น่าเชื่อได้ว่ามีกลุ่มที่เข้าข่ายกระทำความผิดอีกไม่น้อยกว่า 3 กลุ่ม ที่นำเข้าตีนไก่และเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ เพื่อสวมสิทธิ์สำแดงเป็นตีนไก่จากประเทศไทย ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ แต่ DSI ยังต้องขยายผลสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
