แกะรอยเส้นทางหนี คนร้ายชิงทองน้ำหนักเกือบ 34 บาท

View icon 230
วันที่ 22 ม.ค. 2567 | 11.21 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย หลังก่อเหตุชิงทองรูปพรรณจากร้านทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ากว่า 1,200,000 บาท

แกะรอยเส้นทางหนี คนร้ายชิงทองน้ำหนักเกือบ 34 บาท
ไปติดตามกันต่อกับคดี 2 คนร้าย บุกเข้าไปก่อเหตุชิงทองรูปพรรณ จากร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาไชยา อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี โดยกวาดทองรูปพรรณได้เป็นจำนวนมาก มีน้ำหนักเกือบ 34 บาท มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 1,200,000 บาท และหลบหนีไป โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เหตุเกิดวันที่ 20 มกราคม 2567

วันนี้ ตำรวจหลายหน่วยงาน ร่วมกันเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ทั้งตำรวจกองปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจ สภ.ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมุ่งเน้นการแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย

พันตำวจเอก ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจได้ระดมกำลังเข้าช่วยกันติดตามตัวคนร้าย โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.ไชยยา ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ เป็นพนักงาน และผู้จัดการร้าน ซึ่งได้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ทราบว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากได้ใช้ภาษาใต้ในการพูดจาข่มขู่พนักงาน โดยการบอกให้พนักงานหมอบลง แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นคนในพื้นที่ หรือคนจากต่างถิน โดยคนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไป พบว่าเป็นสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 27 เส้น และสร้อยคอ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 13 เส้น รวมมูลค่ากว่า 1,200,000 บาท

ส่วนชุดสืบสวน ได้เร่งแกะรอยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยรอบจุดเกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนี ในรัศมี 10 กิโลเมตร ใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งเบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ บริเวณคลองชลประทาน ในอำเภอไชยา จึงตรวจยึดไว้ และเร่งติดตามจับกุมคนร้ายในพื้นที่ โดยรอบจุดที่ทิ้งรถไว้ดังกล่าว

จับแล้ว คนร้ายชิงทองในห้างสรรพสินค้า
ตำรวจจังหวัดราชบุรี จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีด ชิงทองรูปพรรณ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้ทองคำรูปพรรณน้ำหนักว่า 18 บาท มูลค่ากว่า 600,000 บาท เหตุเกิดวันที่ 16 ธันวาคม 2566

ตำรวจได้นำตัวคนร้ายไปสอบปากคำ ใช้เป็นข้อมูลทางคดี และเตรียมนำคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อบันทึกภาพประกอบในสำนวนการสอบสวน ก่อนนำตัวคนร้ายไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง