มนพร โต้ ศิริกัญญา อ่านรายงาน แลนด์บริดจ์ ฉบับเก่าแล้วเอามาพูด ลั่น รัฐบาลกล้าสบตา-รับฟัง

มนพร โต้ ศิริกัญญา อ่านรายงาน แลนด์บริดจ์ ฉบับเก่าแล้วเอามาพูด ลั่น รัฐบาลกล้าสบตา-รับฟัง

View icon 110
วันที่ 22 ม.ค. 2567 | 11.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"มนพร" โต้กลับ "ศิริกัญญา" อ่านรายงาน “แลนด์บริดจ์” ฉบับเก่าแล้วเอามาพูด ลั่น รัฐบาลไม่ใช่แค่กล้าสบตา ยังเปิดหูเปิดตารับฟัง เตรียมเล็งนำตัวแทนคนเห็นต่าง พบนายกฯ พรุ่งนี้

จากกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ทบทวนรายงานการศึกษา โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) โดยให้รับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนที่แท้จริงจากคนในพื้นที่นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ (22ม.ค.67) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ให้ความเห็นว่า ผลการศึกษาดังกล่าว จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสมาชิกแต่ละคน สามารถแสดงความเห็นได้อย่างกว้างขวาง หาสภาฯ ให้ความเห็นชอบ ก็ส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรีตามลำดับ

ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า รายงานการศึกษาดังกล่าว ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่รัฐบาลจะดำเนินการ เช่น เรื่องการวางท่อน้ำมันนั้น นางมนพร ยืนยันว่า อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งน.ส.ศิริกัญญาอาจไม่ได้ดูข้อมูลปัจจุบัน ไปดูผลการศึกษาในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ดังนั้น การที่ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาใหม่ ก็เพื่อต้องการความเห็นปัจจุบัน วันนี้โลกเปลี่ยนไปความต้องการของประชาชนก็เปลี่ยนไป รัฐบาลยินดีรับฟังทั้งความเห็นร่วมและความเห็นต่าง และไม่ใช่เพียงแค่ไปสบตาประชาชน แต่รัฐบาลยังเปิดหูเปิดตารับฟังอีกด้วย

นางมนพร กล่าวย้ำว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดระนอง มาเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยเตรียมนำตัวแทนผู้เห็นต่างเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอความเห็น หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.สัญจร ในวันพรุ่งนี้

"เรากล้าสบตาประชาชน และ จะเปิดหูเปิดตา ในการรับฟังความเห็นทุกความเห็น" นางมนพร กล่าว

สำหรับทางออกของกลุ่มประมงพื้นบ้านที่กังวลผลกระทบต่ออาชีพ จากโครงการ “แลนด์บริดจ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบบ้าง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีทางออก ทั้งนี้ แม้โครงการ “แลนด์บริดจ์” จะถูกลากมาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่รัฐบาลก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ตอบข้อมูลทางวิชาการ และความต้องการของประชาชน เปิดกันให้เห็นว่า เมื่อโครงการนี้มาถึง ประชาชนสูญเสียอะไร ประชาชนจะได้อะไร  และ ประเทศชาติได้อะไร