รวบ! อดีตอาชีวะ วัย 21 หลังก่อเหตุปาระเบิดหน้าวิทยาลัยคู่อริ พบมีอาการป่วยทางจิต สารภาพแค้นรุ่นน้องถูกยิง จ.นครราชสีมา
27 ม.ค. 67 จากกรณีพ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยพ.ต.ท.ยุทธพงษ์ โคขุนทด รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.ท.อนันท์ แจะสันเทียะ สวป.สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เข้าตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ว่า เกิดเหตุชายคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์ ปาระเบิดเข้ามาในสถาบัน ทำให้นักศึกษาได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชเพื่อทำการรักษา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เป็นชายอายุ 21 ปี โดยอ้างว่าเป็นอดีตเด็กอาชีวะอีกสถาบันหนึ่ง โดยตามจับกุมได้ในพื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตและยังให้การสับสนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยอมรับเบื้องต้นว่าไปประกอบเหตุปาระเบิดจริง เพราะแค้นที่รุ่นน้องถูกยิงก่อนหน้านี้ ส่วนระเบิดนั้นยังไม่ทราบว่าที่มาที่ไปมาจากที่ไหน ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบหาที่มาอยู่
นายนครา อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ชาวบ้านที่มาติดต่อราชการ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเที่ยงตรงกับภรรยากำลังขับรถ จะเดินทางออกจากวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ในระหว่างนั้นได้ยินเสียงระเบิดดัง 1 ครั้ง คิดว่าน่าจะเกิดจากหม้อแปลงระเบิด แต่หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงระเบิดลูกที่ 2 และมีเศษของระเบิดกระเด็นเข้าบริเวณหน้ากระจกได้รับความเสียหาย ซึ่งตนก็รีบถอยรถออกจากจุดเกิดเหตุทันที เพราะเห็นนักศึกษาต่างวิ่งหนีตายกัน
ในระหว่างนั้น ไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อยู่ในอาการมึนงงว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกันแน่ ครั้งนี้ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันมาลงโทษให้ได้โดยเร็วเพราะทำให้ผู้ที่ไม่รู้เรื่องเดือดร้อน
นายวิษณุวัฒน์ แขวงจันอัด อาจารย์ฝ่ายปกครอง วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เผยว่า ช่วงเวลาเกือบเที่ยงได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจำนวน 2 นัด นัดแรกเกิดขึ้นบริเวณหน้าวิทยาลัย ส่งผลให้กระจกตู้ ATM ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นบริเวณร้านอาหารข้างวิทยาลัย มีนักศึกษาบาดเจ็บ 1 คน ซึ่งมีแผลฉีกขาดบริเวณหลังและขา แต่โชคดีที่ร้านไม่ได้เปิดขายของตามปกติไม่งั้นก็น่าจะผู้บาดเจ็บมากกว่านี้ ซึ่งตอนมองว่าน่าจะเกิดจากตัวบุคคลไปมีเรื่องต่างสถาบัน แล้วโดนตามล้างแค้นเอาคืน ซึ่งนักศึกษาทีได้รับบาดเจ็บนั้นล่าสุดปลอดภัยแล้ว
ตนมองว่านักศึกษาคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นน่าจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาจจะโดนลูกหลงมากกว่า แต่อยางไรก็ตาม ตนได้มีการนำรายชื่อทั้ง 23 หัวโจกของวิทยาลัยมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเรียกไปสอบปากคำ และได้มีการประกาศหน้าเสาธงเป็นประจำว่า หลังเลิกเรียนให้รีบกลับบ้าน อย่าพยายามเดินจับกลุ่มหรือไปมั่วสุมตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะเกิดการเขม่นกันต่างสถาบันได้ ทั้งนี้ก็รู้สึกเสียใจที่นักศึกษาได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ต้องยกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป