กองปราบปรามกระจายกำลัง ปิดเมืองนราธิวาส ล่า SIM BOX ตัดสัญญาณจุดกระจายซิมเถื่อนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนใต้ พบนายทุนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย
วันนี้ ( 27 ม.ค.67) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.6 บก.ป. สนธิกำลัง กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และ สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 3 คน คือ น.ส.ซารีนา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี 2. Mr.KIANG WAN อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย และ3. Mr.KUOK RONG อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์ “SIM BOX” หรือ “GSM Gateway” สำหรับ 32 ซิมการ์ด จำนวน 15 เครื่อง เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยพฤติการณ์แก๊งนี้มักจะตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ชายแดนรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงศึกษารูปแบบการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้โทรหาผู้เสียหาย แม้จะโทรจากต่างประเทศ จะทำให้เห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของประเทศไทย เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการขึ้นหมายเลขหน้าเบอร์โทร ของ กสทช. ในแต่ละวันจะสุ่มโทรหาผู้เสียหายหลายแสนครั้ง
ต่อมา กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า ในพื้นที่ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสชายแดนประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย มีการลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ “SIM BOX” หรือ “GSM Gateway” จนเป็นที่มาในการเปิดปฏิบัติการ ปิดเมืองนราฯ ล่า SIM BOX ตัดเครื่องมือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนใต้
ผู้ต้องหา 2 คน แรก คือ น.ส.ซารีนา และ Mr.KIANG WAN ให้การว่าทั้งคู่บหาดูใจกัน ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวมาเลเซีย ให้ดูแลสถานที่ ซึ่งมีการติดตั้ง SIM BOX โดยนายทุนชาวมาเลเซีย จะติดต่อคนไทยให้หาบ้านเช่า และติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตในบ้านเช่า จากนั้นฝ่ายเทคนิคจะเข้ามาดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ โดยได้ค่าจ้าง ดูแลอุปกรณ์เป็นเงิน 5,000 บาท ต่อจุด สำหรับเช่าบ้าน ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำค่าไฟ จะจ่ายต่างหาก ส่วนผู้ต้องหาอีกคน ให้การปฏิเสธ อ้างว่าทำหน้าที่โอนเงินให้ผู้ต้องหาที่ 1 ตามสั่งการของนายทุนชาวมาเลเซีย ส่วนตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแต่อย่างใด
