สนามข่าว 7 สี - "เจ๋ง ดอกจิก" และ "การ์ตูน" ซึ่งเป็นเลขาของเจ๋ง นั่งโต๊ะแถลงข่าวยืนยันไม่ใช่แก๊งรีดทรัพย์ แค่เป็นคนกลางไปช่วยไกล่เกลี่ยให้เรื่องคลี่คลายเท่านั้น พร้อมท้าสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพูดผิดไปจากนี้ ก็ขอให้ได้รับความวิบัติ ใครที่เจตนาร้ายก็ขอให้รับกรรมนี้ไป
ยกธูปเทียนแพขึ้นมากล่าวสาบานกลางวงแถลงข่าว หลังจากที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" และนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ "การ์ตูน" อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดโต๊ะแถลงชี้แจงไปเพียงไม่กี่นาที ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องการตบทรัพย์ และไม่เคยเรียกรับเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่รู้ทำไมถึงถูกกล่าวหาจนเสื่อมเสีย ไม่มีที่ยืนในสังคม
ก่อนจะอธิบายที่มาที่ไปจากความทรงจำ เพราะโทรศัพท์ยังอยู่กับตำรวจ เจ๋ง บอกว่า เริ่มต้นจริง ๆ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปีที่แล้ว ตอนนั้นเจอข้อพิรุธเกี่ยวกับเรื่องทุจริตในกรมฝนหลวง จึงหารือกับ นายศรีสุวรรณ และนัดหมายไปร้องกับ กรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 20 ธันวาคม เมื่อยื่นเรื่องร้องเรียนเสร็จแล้ว ถึงได้แถลงข่าว และเปรยถึงเรื่องทุจริตในกรมการข้าว ซึ่งตนเองกับนายศรีสุวรรณ มีข้อมูลตรงกันว่า มีการทุจริตมหาศาลเกิดขึ้น แต่เพราะมีคนใน "กลุ่มคนเสื้อแดง" โทรมาคุยว่า อธิบดีคนนี้เป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน จึงโทรไปพูดคุยในคืนวันนั้น แต่ไม่ได้รับสายกัน กว่าจะได้คุยกันอีกทีก็วันรุ่งขึ้น โดย อธิบดีกรมการข้าว ได้นัดกินกาแฟกันที่โรงแรมมารวย แต่เพราะระหว่างทางมีการขอเปลี่ยนที่คุย มาคุยกันที่กรมการข้าวแทน จึงเกิดการโทรคุยกันหลายรอบ
ส่วนที่ ภรรยาอธิบดีฯ ไปติดต่ออะไรกับ นายศรีสุวรรณ มาก่อน ยืนยันว่าตนเองไม่ทราบเรื่อง ทำหน้าที่เป็นเพียงคนประสาน ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาให้เบาบางที่สุด โดยไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
ด้าน นางสาวพิมณัฏฐา ที่มีอาการเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา บอกว่า ไม่อยากพาดพิงใคร หลักฐานที่เห็นในแชตข้อความ เป็นเพียงการพยายามติดตามยอดเงินให้ครบ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่ายักยอกเงินไป
เจ๋ง ดอกจิก ยังตอบข้อซักถามอีกหลายประเด็นที่สื่อสงสัย เช่นเรื่องที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ก็ยืนยันว่าเป็นความจริง ภาพที่ตนเองถ่ายคู่กับป้าย ก็เพราะเจ้าหน้าที่ทำเนียบจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า โดยไม่รู้ว่าตนถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว
ยืนยันว่าไม่รู้จักกับ นายหมู ที่ปรึกษาของร้อยเอกธรรมนัส แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ นายเอก จริง เพราะเคยนำโครงการต่าง ๆ มาให้ตรวจสอบ โดยไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนประเด็นที่เข้าพบ นายกองตรี ธนกฤต ยืนยันว่าเป็นการไปหารือเรื่องกำไล EM เพราะได้ข้อมูลว่ามีการสอบทุจริต ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์
เรื่องนี้เราได้มีโอกาสสอบถามกับ นายกองตรี ธนกฤต ด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็ยืนยันว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเหมือนกับที่เคยเล่า "นิทานเรื่องยาว" ให้ฟัง ซึ่งจริง ๆ แล้ว มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก และตนก็มีข้อมูล มีหลักฐานที่จะให้ตำรวจนำไปตรวจสอบต่อไปด้วย
