ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ให้การสนับสนุน และจะเรียก นายหมู ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ที่ถูกพาดพิงให้ข้อมูลในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทนายความให้ความเห็น การแถลงข่าวของ เจ๋ง และ การ์ตูน เมื่อวาน ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองแต่อย่างใด ก่อนอื่นเราไปฟังกันก่อนว่าเสียงท่อนไหน ที่น่าจะไม่เป็นผลดี
นี่เป็นเพียงแค่บางช่วงบางตอน ที่อยู่ในช่วง 5 นาทีแรกของการแถลงข่าว ของ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ นางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ
ที่พอแถลงข่าวจบ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็ถึงกับขอบคุณที่ออกมาพูดข้อเท็จจริง และกล่าวสาธุกับคำสาบานด้วย
แล้วทำไมการแถลงข่าวดังกล่าว ถึงเป็นผลเสียมากกว่าผลดี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ให้ความเห็นว่า เพราะทั้งสองคน ยอมรับว่า รู้เห็นว่ามีการเจรจาต่อรองเงิน จาก 2 กิโล เหลือ 1.5 กิโล เนื้อหาโดยสรุปชี้ให้เห็นว่า มีการแบ่งหน้าที่ทำงานกับนายศรีสุวรรณ แบบนี้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น เพราะผู้ต้องหายอมรับข้อเท็จจริง
ส่วนที่เราเปิดประเด็นเรื่องของ นายกองตรี ธนกฤต ที่เคยเล่านิทานเรื่องยาวให้ฟัง เมื่อวาน คุณพิธพงษ์ ผู้สื่อข่าวของเรา ได้มีโอกาสสอบถามกับเจ้าตัวอีกครั้ง ก็ยอมรับว่าเรื่องที่เล่าไปเป็นเรื่องของตนเองที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ว่าจะเป็น นายเจ๋ง หรือ นายศรีสุวรรณ ก็ไม่ได้คุยกับนายสมศักดิ์โดยตรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังพิจารณาอยู่ว่าควรจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อย่าง นายเอกลักษณ์ หรือ นายเอก เมื่อวานก็ใช้เวลาสอบปากคำไปนานกว่า 7 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม ก็ตอบกลับมาเพียงเสียงหัวเราะ กับชูนิ้วโป้ง เป็นสัญลักษณ์แทนการตอบคำถาม
สำหรับการสอบปากคำ นายเอก พบว่าเป็นคนที่กำข้อมูลพฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหาจำนวนมาก มีข้อมูลวงราชการ งบประมาณ ค่าใช้จ่ายของแต่ละกระทรวง ซึ่งเจ้าตัวสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ และยังมีเส้นสายในกลุ่มข้าราชการหลายคน เชื่อว่าข้อมูลที่มี จะเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลคดีทุจริตอีกหลายโครงการ ส่วนเรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ตำรวจบอกว่า เป็นผู้ให้การสนับสนุน ยังไม่ขอตอบเรื่อง "วง" ที่ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวานนี้ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการสืบสวนสอบสวน