ชายพิการโยกรถสามล้อกว่า 400 กม. เข้ากรุงเทพ เพื่อไปยืนยันตัวตนขอสิทธิที่กรมบัญชีกลาง ยืนยันไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วย ลั่นถ้าเข้ามายุ่งก็จะให้รถพุ่งชน
จากกรณีชายพิการโยกรถสามล้อ 400 กม.เข้ากรุงเทพ เพื่อไปยืนยันตัวตนขอสิทธิที่กรมบัญชีกลาง เนื่องจากตนเองถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน ล่าสุดวันนี้ 5 ก.พ.67 ทราบว่า เมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 23.00 น. นายมณฑล ชายพิการ ได้หลบหนีออกจากบริเวณสถานีตำรวจ สภ.ไชโย มุ่งหน้าไปทางถนนสายเอเชีย
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ถูกตัดสิทธิผู้พิการ โยกรถสามล้อจากสุโขทัยมายืนยันตัวตนที่กรมบัญชีกลาง
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ นางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง น.ส นฤมล พงศ์สุภาพพงศ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาว อัญชลี มีพรเจริญกิจคลัง จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะหัน พบตัวนายมณฑล ชายพิการโยกรถสามล้อ บริเวณริมถนนสายเอเชียหลักกิโลเมตรที่ 37 + 600 ตำบล.ตานิ่มอำเภอ.บางปะหันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สอบถามนายมณฑล แจ้งว่าจุดประสงค์ของตนเองต้องการจะเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อไปพูดคุยด้วยตนเอง ที่กรมบัญชีกลางในกรุงเทพมหานคร โดยไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะความตั้งใจ อยากจะไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวงถึงปัญหาของระบบการทำงานของราชการ และที่มีข่าวว่าตนเองนั้นหนีคดีมาไม่จริงตนเองไม่ได้หนี
นางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ได้ติดต่อกับแม่ของนายมณฑลเพื่อให้คุยกับลูกชาย แต่นายมณฑลปฏิเสธไม่พูดคุยด้วย ยืนยันจะเดินทางเขา กรุงเทพอย่างเดียว และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ จะโยกรถสามล้อไปเอง ถ้าเจ้าหน้าที่เข้ามายุ่งก็จะให้รถพุ่งชน และไม่ขอ คุยกับใครทั้งนั้นในตอนนี้
ซึ่งระหว่างที่นายมณฑล โยกรถสามล้อไปตามถนน ก็มีรถของเจ้าหน้าที่ขับตาม ซึ่งมีช่วงหนึ่ง นายมณฑล ได้เลี้ยวรถสามล้อเข้ามาพุ่งชนรถตำรวจที่ขับตาม
ส่วนเรื่องที่นายมณฑลได้พูดถึงนั้น ตอนนี้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบรายชื่อทะเบียนบ้านแล้วพบว่า นายมณฑลมีทะเบียนบ้านอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง เรื่องเงินเบี้ยพิการก็จะดูแลและตรวจสอบให้ และยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ
